อยากรู้ไหม เศรษฐีเขาลงทุนอะไรกัน?

อยากรู้ไหม เศรษฐีเขาลงทุนอะไรกัน?

สิ้นปี 2016 ผู้มีความมั่งคั่งสูง ซึ่งหมายถึงผู้มีสินทรัพย์เกินกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 33 ล้านบาท) ขึ้นไป ในโลกนี้ มีจำนวน 16.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2015 ประมาณ 7.1% แบ่งเป็นผู้มีความมั่งคั่ง 1-5 ล้านเหรียญสหรัฐ 14.86 ล้านคน มีความมั่งคั่ง 5-30 ล้านเหรียญสหรัฐ 1.5 ล้านคน และมีความมั่งคั่งมากกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ 157,200 คน

เมื่อแบ่งตามภูมิภาคที่อาศัย พบว่า เอเชียแปซิฟิกมีจำนวนมหาเศรษฐีแซงนำทวีปอเมริกาเหนือไปเล็กน้อย คือมีจำนวนผู้มีความมั่งคั่งสูงอยู่ที่ 5.5 ล้านคน ในขณะที่อเมริกาเหนือมี 5.2 ล้านคน

ความมั่งคั่งของคนกลุ่มนี้ทั่วโลก รวมกันเท่ากับ 63.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2015 ประมาณ 8.2% และสำหรับการจัดสัดส่วนของการลงทุนนั้น  พบว่าการจัดสรรการลงทุนต่างๆ ประกอบด้วย

881282

จะเห็นว่าผู้มีความมั่งคั่งสูงมีการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น เงินสด/เงินฝาก หุ้นทุนอสังหาริมทรัพย์ ตราสารหนี้และสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ตราสารอนุพันธ์ สกุลเงินตราต่างประเทศ ทองคำ และหุ้นที่จดทะเบียนอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity) เป็นต้น เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในภาวะที่ตลาดทุนมีความผันผวนที่สูงมากขึ้น

นอกจากนี้เมื่อสอบถามถึงช่องทางในการลงทุนพบว่า เศรษฐีทั่วโลกลงทุนโดยซื้อหุ้นรายตัว 38.3% ลงทุนผ่านกองทุนรวม 31% ผ่านกองทุนตลาดรองหรือ ETF* 18.2% และลงในช่องทางอื่นๆ 14%  จะเห็นว่าแม้แต่เศรษฐีผู้มีความมั่งคั่งสูงยังนิยมใช้บริการของกองทุนรวม ดังนั้น กองทุนรวมจึงเป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่ช่วยนำพาผู้ลงทุนไปสู่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะใช้เงินลงทุนในจำนวนที่ไม่มาก ก็สามารถจัดพอร์ตการลงทุน และกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

* ETF ย่อมาจาก Exchange Traded Fund คือ กองทุนเปิดที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อให้ซื้อขายได้สะดวกเหมือนหุ้น ใช้เงินลงทุนน้อย ค่าใช้จ่ายในการซื้อขายต่ำ บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) ซึ่งมีนโยบายสร้างผลตอบแทนตามดัชนีอ้างอิง (Passive Fund) โดยสามารถลงทุนในสินทรัพย์ได้หลากหลายประเภท เช่น หุ้นในประเทศ (เช่น TDEX ลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50) หุ้นต่างประเทศ หรือทองคำ เป็นต้น

เมื่อได้ทราบข้อมูลการลงทุนของผู้มีความมั่งคั่งสูงอย่างนี้แล้ว เราอาจจะเห็นแนวทางในการจัดพอร์ตการลงทุนของตัวเองบ้างไม่มากก็น้อย เพราะอย่าลืมว่าการกระจายการลงทุน ด้วยการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย (การทำ Asset Allocation) เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ผู้ลงทุนประสบความสำเร็จในการลงทุนระยะยาว

บทความโดย:นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์

 1391
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์