ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก หลังมีคำถามว่า จริงหรือไม่ หลังสิ้นเดือน ก.ย.นี้ ลูกหนี้รายย่อยไม่สามารถพักชำระหนี้ต่อได้แล้ว
ซึ่ง ธปท. ชี้แจงว่า การที่มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในระยะที่ 2 ของแบงก์ชาติ ไม่ได้มีมาตรการพักชำระหนี้เป็นการทั่วไปเหมือนในระยะแรก เพราะสถานะความต้องการความช่วยเหลือของลูกหนี้แต่ละรายมีความแตกต่างกัน ลูกหนี้ส่วนหนึ่งยังคงมีรายได้เพียงพอที่จะชำระหนี้ตามกำหนดได้ การจ่ายชำระหนี้เมื่อถึงกำหนดชำระจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ลูกหนี้ไม่ต้องมีภาระจ่ายดอกเบี้ยต่อเนื่อง และยังช่วยให้สถาบันการเงินมีสภาพคล่องไปช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มอื่นๆ ได้อีก
สำหรับประชาชนกลุ่มที่ยังไม่สามารถกลับมาทำงานได้ หรือมีรายได้ลดลงมาก ลูกหนี้กลุ่มนี้สามารถติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ในหลายรูปแบบ เช่น เลื่อนหรือลดชำระเงินต้น ขอลดดอกเบี้ย หรือเปลี่ยนหนี้ระยะสั้นให้เป็นหนี้ระยะยาวที่มีดอกเบี้ยถูกลง โดยลูกหนี้จะไม่เสียประวัติข้อมูลเครดิต
ทั้งนี้ การพักชำระหนี้เป็นมาตรการเยียวยาในระยะสั้น เพราะหากครบกำหนดลูกหนี้ยังจะต้องชำระหนี้กับสถาบันการเงินตามปกติ ดังนั้น แบงก์ชาติจึงได้เน้นให้สถาบันการเงินเร่งเจรจาปรับปรุงเงื่อนไขการชำระหนี้ให้เหมาะสมกับความสามารถของลูกหนี้ เพื่อมิให้เกิดปัญหาต่อลูกหนี้ในภายหลัง
อย่างไรก็ตาม แบงก์ชาติขอให้ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ รีบติดต่อสถาบันการเงินที่ใช้บริการเพื่อเจรจาเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หากลูกหนี้ไม่ได้รับความสะดวกในการติดต่อขอความช่วยเหลือ หรือมีความล่าช้าในการพิจารณาจากสถาบันการเงิน รวมถึงพบเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม ขอให้แจ้งมาที่ "ทางด่วนแก้หนี้ ของ ธปท." โทร 1213 หรือ https://www.1213.or.th/App/DebtCase