TH
TH
EN
062-310-5613
Menu
Home
Product
Sales Order
Purchase Order
Inventory Control
Accounts Receivable
Accounts Payable
General Ledger
Petty Cash
Cheque Receivable
Cheque Payment
Bank Adjustment
VAT & Withholding Tax
Sales Force Automation
Approve Center
Financial Management
Sale Analysis
Purchase Analysis
Audit and Internal Control
Security Administrator
Mobile Apps
API Lazada & Shopee
Work Flow
Pricing
ราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการให้บริการ
วิธีการชำระเงิน
Service
จองอบรมโปรแกรม
วีดีโอสอนการใช้งาน
คู่มือการใช้งาน
คำถามที่พบบ่อย FAQs
ข้อเสนอแนะโปรแกรม
การวางระบบบัญชี และการเริ่มต้นใช้งาน
รายละเอียดการ Update Version
นโยบายการรักษาข้อมูล
Customers
Site Reference
Partners สถาบันการศึกษา
More
โครงการเพื่อสังคม
ฟังก์ชันสำหรับสำนักงานบัญชี
เหตุผลที่เลือกใช้ myAccount Cloud
บัญชีโคตรง่าย myAccount Cloud
จองอบรมโปรแกรมก่อนซื้อ
News
Blog
Partners
Partners สำนักงานบัญชี
สถาบันการศึกษา
About Us
Our Story
Social Enterprise
Office Location
Our Business
Prosoft Group
Contact Us
ทดลองใช้งานฟรี
หน้าแรก
BLOG myAccount Cloud
4 ขั้นตอนการทำบัญชีให้ถูกต้องตามหลักการบัญชีและภาษี
4 ขั้นตอนการทำบัญชีให้ถูกต้องตามหลักการบัญชีและภาษี
ย้อนกลับ
หน้าแรก
BLOG myAccount Cloud
4 ขั้นตอนการทำบัญชีให้ถูกต้องตามหลักการบัญชีและภาษี
4 ขั้นตอนการทำบัญชีให้ถูกต้องตามหลักการบัญชีและภาษี
ย้อนกลับ
4 ขั้นตอนการทำบัญชีให้ถูกต้องตามหลักการบัญชีและภาษี
1. การบันทึกบัญชี (Accounting)
คือ กระบวนการในการบันทึก รวบรวม วิเคราะห์ และรายงานข้อมูลทางการเงินขององค์กรหรือธุรกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องและครบถ้วนเพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ กาควบคุมภายใน และการรายงานผลการดำเนินงานให้กับผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ผู้ถือหุ้น ผู้จัดการ หน่วยงานรัฐ และบุคคลภายนอกอื่นๆ ซึ่งการบันทึกบัญชีมีองค์ประกอบหลักดังนี้
1.1. บันทึกรายการค้าอย่างถูกต้องและครบถ้วน
คือ การบันทึกรายการค้าแต่ละรายการให้ครบถ้วน ถูกต้อง และทันเวลา และใช้เอกสารที่มีการอนุมัติและมีความน่าเชื่อถือเป็นหลักฐานในการบันทึก เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบส่งของ ฯลฯ
1.2. ระบบบัญชีคู่ (Double Entry Accounting)
คือ ทุกการทำธุรกรรมจะต้องมีการบันทึกทั้งในเดบิต (Dr) และเครดิต (Cr) เพื่อให้สมดุลกัน เช่น ถ้ามีการซื้อสินค้าด้วยเงินสด จะบันทึกบัญชีที่เดบิต "สินค้า" และเครดิต "เงินสด"
1.3. การจัดทำงบการเงิน (Financial Statements)
• งบกำไรขาดทุน (Income Statement) แสดงรายได้และค่าใช้จ่าย
• งบดุล (Balance Sheet) แสดงสินทรัพย์ หนี้สิน และทุน
• งบกระแสเงินสด (Cash Flow Statement) แสดงกระแสเงินสดที่ไหลเข้าหรือออกจากธุรกิจ
2. การปฏิบัติตามกฎหมายภาษี (Tax Compliance)
คือ การที่ธุรกิจหรือบุคคลปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับภาษีอย่างถูกต้องและครบถ้วน ซึ่งรวมถึงการจัดทำและยื่นเอกสารภาษี การจ่ายภาษี และการรักษาบันทึกทางการเงินตามทีกฎหมายกำหนด การปฏิบัติตามกฎหมายภาษีมีความสำคัญเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาทางกฎหมายและการถูกปรับจากหน่วยงานรัฐ ซึ่งการปฏิบัติตามกฎหมายภาษีมีองค์ประกอบหลักดังนี้
2.1. การจัดทำรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
• บันทึกรายการซื้อขายสินค้าที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม
• ยื่นรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
2.2. ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax)
• บันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายที่ถูกต้องเพื่อนำมาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
• ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี (ภ.ง.ด.51) ภายใน 2 เดือนหลังจากสิ้นครึ่งปี
• ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี (ภ.ง.ด.50) ภายใน 150 วันหลังจากสิ้นปีบัญชี
2.3. ภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding Tax)
• บันทึกและหักภาษี ณ ที่จ่ายตามที่กำหนด เช่น ค่าจ้าง ค่าบริการ
• ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภ.ง.ด.3 และ ภ.ง.ด.53) ภายในวันที่ 7 ของเดือนถัดไป
3. การใช้ซอฟต์แวร์บัญชี (Accounting Software)
คือ การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการจัดการและบันทึกข้อมูลทางการเงินและบัญชีขององค์กรหรือธุรกิจ ซอฟต์แวร์บัญชีช่วยทำให้งานบัญชีเป็นระบบ มีความถูกต้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการใช้ซอฟต์แวร์บัญชีมีองค์ประกอบหลักดังนี้
3.1. ประโยชน์ของการใช้ซอฟต์แวร์บัญชี
• ความสะดวกและรวดเร็ว ซอฟต์แวร์บัญชีช่วยลดเวลาที่ใช้ในการบันทึกและประมวลผลข้อมูลทางการเงิน ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น
• ความถูกต้อง ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากการบันทึกข้อมูลด้วยมือ และมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดยอัตโนมัติ
• การจัดทำรายงาน ซอฟต์แวร์สามารถสร้างรายงานทางการเงินต่างๆ เช่น งบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
• การจัดเก็บข้อมูล ข้อมูลทางการเงินทั้งหมดถูกจัดเก็บในระบบ ทำให้สามารถค้นหาและเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
• การปฏิบัติตามกฎหมายภาษี ซอฟต์แวร์บัญชีช่วยในการคำนวณและเตรียมเอกสารภาษีต่างๆ ให้ถูกต้องตามข้อกำหนดของกฎหมายภาษี
• การควบคุมภายใน ซอฟต์แวร์บัญชีช่วยให้การควบคุมและติดตามการเงินภายในองค์กรเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
3.2. ฟังก์ชันหลักของซอฟต์แวร์บัญชี
• การบันทึกบัญชีทั่วไป (General Ledger) บันทึกและจัดการธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดขององค์กร
• การจัดการบัญชีลูกหนี้ (Accounts Receivable) บันทึกการขายและการเก็บเงินจากลูกค้า
• การจัดการบัญชีเจ้าหนี้ (Accounts Payable) บันทึกการซื้อและการจ่ายเงินให้กับผู้ขายหรือผู้ให้บริการ
• การจัดทำงบการเงิน (Financial Reporting) สร้างรายงานทางการเงินต่างๆ เช่น งบกำไรขาดทุน งบดุล งบกระแสเงินสด
• การจัดการภาษี (Tax Management) คำนวณภาษีที่ต้องจ่ายและจัดทำเอกสารภาษีต่างๆ
• การจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Management) บันทึกและติดตามการเคลื่อนไหวของสินค้าในคลัง
• การบริหารเงินสด (Cash Management) ติดตามการเคลื่อนไหวของเงินสดและการจัดทำงบกระแสเงินสด
3.3. การเลือกซอฟต์แวร์บัญชี
• ความเหมาะสมกับธุรกิจ เลือกซอฟต์แวร์ที่มีฟังก์ชันตรงกับความต้องการของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่
• การใช้งานง่าย ซอฟต์แวร์ควรมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและสะดวกสำหรับผู้ใช้
• การสนับสนุนและบริการหลังการขาย มีบริการสนับสนุนและการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพ
• ความปลอดภัยของข้อมูล ซอฟต์แวร์ควรมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทางการเงินอย่างเหมาะสม
• ความสามารถในการขยายตัว ซอฟต์แวร์ควรสามารถขยายความสามารถได้เมื่อธุรกิจเติบโต
4. การตรวจสอบบัญชี (Audit)
คือ กระบวนการที่ผู้ตรวจสอบบัญชี (Auditor) ทำการตรวจสอบและประเมินข้อมูลทางการเงินและบัญชีขององค์กรหรือธุรกิจ เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลดังกล่าวถูกต้อง เชื่อถือได้ และสอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบบัญชีมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ผู้ถือหุ้น ผู้บริหาร นักลงทุน และหน่วยงานรัฐ ซึ่งการตรวจสอบบัญชีมีองค์ประกอบหลักดังนี้
4.1. ประเภทของการตรวจสอบบัญชี
• การตรวจสอบบัญชีภายนอก (External Audit) ดำเนินการโดยผู้สอบบัญชีอิสระหรือบริษัทตรวจสอบบัญชีภายนอก ที่มุ่งเน้นการตรวจสอบงบการเงินขององค์กรเพื่อให้ความเชื่อมั่นว่ามีการนำเสนอตามมาตรฐานการบัญชีที่ยอมรับทั่วไป และผลการตรวจสอบจะมีการรายงานในรูปแบบของรายงานการตรวจสอบ (Audit Report) ซึ่งจะแสดงความเห็นของผู้สอบบัญชีเกี่ยวกับงบการเงิน
• การตรวจสอบบัญชีภายใน (Internal Audit) ดำเนินการโดยหน่วยงานภายในองค์กร ที่มุ่งเน้นการตรวจสอบการควบคุมภายใน ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการปฏิบัติตามกฎระเบียบภายในองค์กร และผลการตรวจสอบจะรายงานให้กับฝ่ายบริหารเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานภายในองค์กร
4.2. วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบบัญชี
• ความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบว่าข้อมูลทางการเงินและบัญชีที่จัดทำมีความถูกต้องและน่าเชื่อถือ
• การปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎหมาย ตรวจสอบว่าการบันทึกบัญชีและการรายงานทางการเงินเป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
• การป้องกันการทุจริตและความผิดพลาด ตรวจสอบการควบคุมภายในเพื่อป้องกันการทุจริตและความผิดพลาดในการดำเนินงาน
• การให้คำแนะนำ ให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและระบบบัญชีขององค์กร
4.3. ขั้นตอนของการตรวจสอบบัญชี
• การวางแผนการตรวจสอบ (Audit Planning) กำหนดขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ และประเมินความเสี่ยงและกำหนดกลยุทธ์ในการตรวจสอบ เพื่อเตรียมแผนการตรวจสอบและตารางเวลาการดำเนินงาน
• การเก็บรวบรวมหลักฐาน (Evidence Gathering) ตรวจสอบเอกสารทางการเงินและบัญชี และสัมภาษณ์บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการทดสอบรายละเอียดและการทดสอบเชิงวิเคราะห์เพื่อยืนยันความถูกต้องของข้อมูล
• การประเมินและวิเคราะห์ (Evaluation and Analysis) วิเคราะห์ผลการตรวจสอบและหลักฐานที่ได้รวบรวม เพื่อประเมินความเหมาะสมและความถูกต้องของการบันทึกบัญชี
• การสรุปผลและรายงาน (Conclusion and Reporting) สรุปผลการตรวจสอบและจัดทำรายงานการตรวจสอบ และรายงานผลการตรวจสอบให้กับฝ่ายบริหารหรือผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ
4.4. ความสำคัญของการตรวจสอบบัญชี
• สร้างความเชื่อมั่น สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียว่าข้อมูลทางการเงินมีความถูกต้องและเชื่อถือได้
• ป้องกันการทุจริต ช่วยในการป้องกันและตรวจจับการทุจริตภายในองค์กร
• การปรับปรุงการดำเนินงาน ให้คำแนะนำในการปรับปรุงระบบการควบคุมภายในและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
• การปฏิบัติตามกฎหมาย ช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
580
ผู้เข้าชม
หมวดหมู่
1145
ทั้งหมด
บัญชีโคตรง่าย
1110
การตลาด
11
บริหารธุรกิจ
12
ซอฟท์แวร์
12
ซอฟท์แวร์บัญชี
11
ซอฟท์แวร์ CRM
1
Get started for free today.
ทดลองใช้งานฟรี
×
โทร
062-310-5613
×
Line
×
ฟอร์มการติดต่อ
ชื่อผู้ติดต่อ :
บริษัท :
เบอร์โทรศัพท์ :
อีเมล :
ประเภทการติดต่อ :
สอบถาม
สนใจสินค้าและบริการ
ข้อเสนอแนะโปรแกรม
ร้องเรียนบริการ
ดาวน์โหลดโปรแกรม
ทดลองใช้งานออนไลน์ (Online Demo)
อื่นๆ
จองดูสาธิตการใช้โปรแกรม เชียงใหม่
จองดูสาธิตการใช้โปรแกรม กรุงเทพฯ
จองอบรมโปรแกรมก่อนซื้อ
จองอบรมออนไลน์
ร่วมเป็น Partners กับ myAccount
ร่วมเป็น Education กับ myAccount
จองอบรม Online
ลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี
เรื่อง :
รายละเอียด :
รอบอบรมออนไลน์ :
- เลือกรอบอบรมออนไลน์ -
17-18 ธันวาคม 2567 (เวลา 09:00 - 16:00)
22-23 มกราคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 กุมภาพันธ์ 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 มีนาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
23-24 เมษายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
21-22 พฤษภาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
18-19 มิถุนายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
23-24 กรกฎาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
20-21 สิงหาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
17-18 กันยายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
21-22 ตุลาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 พฤศจิกายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
17-18 ธันวาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
ส่งข้อความ
ยกเลิก
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด
×
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี
By SoGoodWeb.com