วิธีนี้ในขั้นแรกบริษัทผู้ลงทุนจะบันทึกบัญชีเงินลงทุนในบริษัทผู้ลงทุนตามจำนวนจำนวนที่ได้จ่ายไปทั้งหมดเพื่อถือหุ้นของบริษัทผู้ถูกลงทุน และต่อมาจะบันทึกจำนวนเงินลงทุนเปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์สุทธิของผู้ลงทุน โดยรับรู้รายได้หรือค่าใช้จ่ายตามจำนวนกำไรหรือขาดทุนของบริษัทผู้ถูกลงทุนที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่บริษัทผู้ลงทุนถือหุ้นตามสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ วิธีนี้เมื่อสิสินทรัพย์สุทธิของบริษัทผู้ถูกลงทุนเพิ่มขึ้น บริษัทผู้ถูกลงทุนจะเพิ่มราคาตามบัญชีของเงินลงทุน และหากสินทรัพย์สุทธิของบริษัทผู้ลงทุนลดลง บริษัทผู้ลงทุนจะลดราคาตามบัญชีของเงินลงทุนตามสัดส่วนที่บริษัทผู้ลงทุนถือหุ้นอยู่
2. การบันทึกบัญชีเงินลงทุนตามวิธีราคาทุน
วิธีนี้บริษัทผู้ลงทุนจะบันทึกบันทึกบัญชีเงินลงทุนตามจำนวนที่ได้จ่ายไปทั้งหมดเพื่อถือหุ้นของบริษัทผู้ถูกลงทุน และไม่มีการปรับปรุงจำนวนเงินลงทุนตามการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์สุทธิของบริษัทผู้ถูกลงทุนแต่อย่างใด บริษัทผู้ลงทุนบันทึกรับรู้รายได้จากบริษัทผู้ถูกลงทุนเท่ากับจำนวนเงินปันผลที่บริษัทผู้ถูกลงทุนประกาศจ่ายจากกำไรที่เกิดขึ้นหลังจากวันที่บริษัทผู้ลงทุนถือหุ้นบริษัทผู้ถูกลงทุนเท่านั้น
3. วิธีราคาทุนหรือราคาที่ประเมิน
การบันทึกบัญชีของเงินระยะยาวแสดงไว้ในราคาทุนหรือราคาที่ประเมินตามหลักเกณฑ์อย่างมีระบบ โดยมีหลักฐานอ้างอิงที่เชื่อถือได้
ถ้าใช้ราคาที่ประเมิน ให้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับความถี่ในการประเมินราคาใหม่และให้ประเมินราคาของเงินลงทุนระยะยาวประเภทเดียวกันพร้อมกันทั้งหมด
ราคาตามบัญชีของเงินลงทุนระยะยาวให้ปรับปรุงลดลงเพื่อรับรู้ผลการลดลงอย่างถาวรในมูลค่าของเงินลงทุน ราคาที่ลดลงดังกล่าว ให้คำนวณจากการเปรียบเทียบราคาของเงินลงทุนแต่ล่ะรายการ
บทความโดย : https://sites.google.com