การคิดค่าเสื่อมราคาตามวิธีนี้ตั้งอยู่บนข้อสมมติฐานว่า สินทรัพย์จะเสื่อมสภาพไปตามการใช้งาน กล่าวคือ หากในงวดใดสินทรัพย์ใช้งานมากก็จะเสื่อมสภาพมาก หากในงวดใดสินทรัพย์ใช้งานน้อยก็จะเสื่อมสภาพน้อย ถ้าในงวดใดไม่ได้ใช้งานเลยสินทรัพย์ก็จะไม่เสื่อมสภาพ ดังนั้น การเสื่อมสภาพจะเกิดจากการใช้งานมิใช่เกิดจากระยะเวลา ค่าเสื่อมราคาในแต่ละปีจึงมีจำนวนไม่เท่ากัน โดยจะผันแปรตามกิจกรรมหรือตามการใช้งาน วิธีนี้จะคิดค่าเสื่อมราคาตามชั่วโมงการทำงาน ( Working – hours Method ) หรือคิดค่าเสื่อมราคาตามจำนวนผลผลิต ( Productive – output Method ) ซึ่งจะมีผลทำให้ค่าเสื่อมราคาขึ้นลงตามผลประโยชน์หรือผลผลิตที่คาดว่าจะได้รับจากสินทรัพย์ โดยใช้สูตร
อัตราค่าเสื่อมราคา = มูลค่าเสื่อมสภาพ ( ราคาทุน – ราคาซาก )
จำนวนชั่วโมงการทำงานหรือจำนวนผลผลิตทั้งหมด
ค่าเสื่อมราคาต่องวด = อัตราค่าเสื่อมราคา x จำนวนชั่วโมงการทำงานหรือจำนวนผลผลิตในงวดนั้น
บทความโดย : https://sites.google.com/