ในแง่ของการทำธุรกิจนั้น สภาพคล่องไม่ใช่ เงินกำไร ขาดทุน เพียงอย่างเดียว แต่จะนับรวมถึงความสามารถในการหมุนเงิน การจ่ายชำระหนี้ และการเปลี่ยนสภาพเป็นเงินสดให้ทันเวลาอีกด้วย ส่วนใหญ่การขาดสภาพคล่องทางธุรกิจมักเกิดจาก การจัดการช่วงระยะเวลาในการรับเงินและจ่ายหนี้ที่ไม่สมดุล การมีสินค้าค้างในคลังมากเกินไปหรือที่เรียกว่า ตุนของไว้เยอะเกิน อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นมาโดยไม่คาดคิด เช่นเกิดภัยต่างๆ อย่างน้ำท่วม สงครามเป็นต้น การที่เราจะรับมือกับปัญหาการขาดสภาพคล่องทำได้ด้วยการวางแผนการเงินการจัดการไว้ล่วงหน้า และทำบัญชีรายรับ รายจ่าย รวมทั้งประมาณการกระแสเงิน ซึ่งจะทำให้สามารถจัดการทุกอย่างได้ง่ายขึ้นเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา หลักการคือต้องมีทักษะในการคาดดารณ์ล่วงหน้าได้ดีระดับหนึ่ง เตรียมการไว้ ถ้าเกิดปัญหาก็จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที หากไม่เกิดปัญหา ก็ไม่เป็นไร ถือว่ากันไว้ดีกว่าแก้ ถ้าปล่อยให้แย่แล้วจะแก้ไม่ทัน
จะเพิ่มทุนหรือจะสร้างหนี้ จะเลือกอันไหนก็อยู่ที่ความเหมาะสม เงินทุน และประเภทของกิจการ สิ่งที่นิยมทำกันอย่างหนึ่งก็คือ การขอวงเงินเบิกเกินบัญชีหรือที่เรียกย่อๆว่า OD ที่ขอไว้กับทางธนาคาร เงินส่วนนี้ถือเป็นหนี้สินที่ถ้าเราเบอกมาใช้เมื่อไหร่ ก็เป็นหนี้และต้องมีค่าดอกเบี้ยเกิดขึ้น ถ้าไม่ได้ใช้ หรือโปะคืนไปแล้ว ดอกเบี้ยก็หยุดเดิน ถือเป็นแหล่งเงินสำรองที่ดีอีกทางหนึ่ง
ก็คือหาได้ไม่พอกิน เกินจากมีรายได้น้อยเกินไป ไม่พอใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัว ปัญหานี้ต้องอยู่ที่การจัดการตนเอง ทั้งสภาพภายนอกและภายใน ภายนอกก็พยายามลดค่าใช้จ่ายหรือหารายได้เพิ่ม ภายในก็คือข่มใจบังคับใจ ให้รู้เท่าทันค่านิยมสังคมที่บางทีก็ไร้สาระ เช่น การใช้ของแบรนด์เนม หรือการอยากได้อยากมีอะไรที่เหมือนคนอื่น โดยที่ฐานะเราไม่ได้ดีเท่าคนอื่น เป็นธรรมดาที่ใครๆก็อยากได้อยากดี แต่ตอนนี้ยังมีไม่ได้ ก็ต้องบังคับฝืนใจ ข่มใจตัวเองเอาไว้ ไม่ทำอะไรตามใจอยาก เพราะเป็นเป็นปัญหาให้ต้องตามแก้ ตามใช้หนี้ไม่รู้จบ อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้เงินขาดมือในแง่บุคคลคือร่ายจ่ายที่ไม่คาดคิด เช่น เจ็บป่วยร้ายแรง กะทันหัน สิ่งเหล่านี้ต้องวางแผนรับมือไว้แต่เนิ่นๆ ต้องรู้จักเก็บออมเงินและรู้จักใช่สิทธิสวัสดิการที่ภาครัฐหรือนายจ้างมีไว้ หากเกิดปัญหาไม่มีเงินจริงๆและจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ วิธีแก้ก็คือต้องเพิ่มทุนหรือสร้างหนี้ เพียงแต่รูปแบบการเพิ่มและการสร้างหนี้จะแตกต่างไปจากภาคธุรกิจ ในแง่บุคคลธรรมดา เราก็อาจต้องไปหายืมเอาจากเพื่อนฝูง ญาติมิตร หรือด้วยการนำมรัพย์ที่มีอยู่ไปขาย ไปจำนำเป็นต้น และอีกทางเลือกหนึ่งก็คือ การขอทำวงเงินสินเชื่อสำหรับบุคคลที่ธนาคารและสถาบันการเงินได้เปิดรองรับไว้
บทความโดย: moneyhub