ความเป็นอมตะ คงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็อยากมี แต่คงจะดูเป็นอะไรที่เหนือธรรมชาติมาก หากคิดจะเป็นแบบนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะในโลกนี้มีสูตรที่จะทำให้ทุกคนสามารถเป็นอมตะได้ แต่ความอมตะที่ว่านี้ไม่ใช่ความคงกระพันทางร่างกาย แต่เป็นความอมตะทางการเงิน พูดง่ายๆ คือ “มีเงินให้ใช้แบบไม่มีวันหมด” หรือความเป็นอมตะทางการเงินนั่นเอง
จากภาพที่ 1 วิธีการคำนวณให้นำ 12 หารด้วยผลตอบแทนที่คาดว่าจะทำได้หลังหักเงินเฟ้อ จากนั้นจับมาคูณกับค่าใช้จ่ายต่อเดือน ตัวเลขที่ออกมานั้นคือ จำนวนเงินที่ต้องนำไปลงทุนให้ได้ตามที่คาดไว้ ก็จะสามารถถอนเงินมาใช้ได้เรื่อยๆ แบบไม่มีวันหมด
แต่ถ้าขี้เกียจคำนวณ มีสูตรสำเร็จรูปไว้ให้เรียบร้อยแล้ว (ภาพที่ 2) โดยแกนนอนด้านบนคือ ระดับของเงินเฟ้อ (เฉลี่ยประมาณ 3% ต่อปี) แกนตั้งซ้ายมือ คือ ระดับผลตอบแทนที่คาดว่าจะทำได้ สิ่งที่ต้องทำแค่เพียงหาตัวเลขในตาราง แล้วนำไปคูณกับค่าใช้จ่ายต่อเดือน เพียงเท่านี้ก็จะรู้ว่าต้องมีเงินเท่าไหร่ ลงทุนอะไร ถึงจะใช้ได้แบบไม่หมด
ค่าใช้จ่ายและผลตอบแทน คือ ตัวแปรสำคัญ
อัตราเงินเฟ้อคงเป็นอะไรที่กำหนดไม่ได้ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ดังนั้น ต้องมาดูเรื่องค่าใช้จ่ายกับผลตอบแทน เพราะหากลองสังเหตุให้ดี เงินที่ต้องมีจะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับว่าใช้จ่ายมากแค่ไหน อย่างเช่น ถ้าใช้จ่ายเดือนละ 30,000 บาท ลงทุนได้ผลตอบแทน 7% ในขณะที่เงินเฟ้ออยู่ 3% ก็ต้องเตรียมไปเลยเหนาะๆ 300 เท่าของ 30,000 บาท หรือ 9,000,000 บาท
ข้อควรระวังของสูตรอมตะ
นั่งคำนวณไปคำนวณมาถึงกับอุทานในใจ “โห ลงทุนได้ 10% มีแค่ไม่กี่บาทก็อมตะได้แล้ว รู้งี้ลาออกจากงานเลยดีกว่า” เดี๋ยวก่อน อย่าใช้ตัวเลขผลตอบแทนที่สูงเกินจริงไป เพราะยิ่งสูง ยิ่งเสี่ยง โอกาสที่จะได้ตามที่คาดยิ่งมีน้อย กลับกันยิ่งเลือกผลตอบแทนคาดหวังต่ำ โอกาสที่จะได้ตามนั้นจะมีสูงมากขึ้น พูดง่ายๆ เอาพอประมาณ แล้วค่อยๆ ออม ค่อยๆ ลงทุน ถ้าทำได้บอกเลยว่าจะเป็นอมตะไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่
บทความโดย:ปริพรรห์ ปริยอุดมทรัพย์