ความดิ้นรนอัตคัดของคนในสังคมทำให้โหยหาสิ่งที่เรียกว่า 'เงิน' บางคนถึงกับให้นิยามของคำว่า 'เงิน คือ พระเจ้า' แม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ วัยรุ่น หรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่ตัวโตๆก็ต้องการสิ่งนี้
การที่จะได้มาซึ่งสิ่งนี้ ก็คือ 'การทำงาน' สโลแกนยอดฮิตของคนสมัยนี้ โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Y คือ ความสุขในการทำงานมีค่ามากกว่าเงินที่ได้มา ถ้าฉันทำงานแล้วไม่มีความสุข ฉันก็จะออกไปหางานใหม่
ความอดทนต่อการดิ้นรนต่อสู้ในการหางานประจำเพื่อให้ได้เงิน มีน้อยลงเรื่อยๆสำหรับคนในปัจจุบัน ด้วยการมีทางเลือกที่หลากหลายในการทำงานและทำเงิน ทั้งในโลกจริงและโลกเสมือน หรือที่พวกเราเรียกมันว่า 'โลกออนไลน์' และย่ิ่งไปกว่านั้นยังมีการตีแผ่สังคมด้วยสโลแกนง่ายๆแต่โดนใจว่า 'งานไม่ประจำทำเงินกว่า'
เราลองมามองดูสังคมในมุมกลับ พ่อแม่ของเราส่วนใหญ่ก็ทำงานประจำกันทั้งนั้น และมีเงินส่งให้ลูกหลานของเราได้เรียนหนังสือ จนลูกๆหลานๆได้อยู่ท่ามกลางความศิวิไลที่บูชาเงิน
ถ้าไม่ใช่เพราะเงินเดือนที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของพวกเขา ที่ได้มาเพราะความลำบาก ต้องทำงานประจำจนมีเงินเดือน และสร้างสิ่งที่มีค่าที่สุด คือ 'การรู้คุณค่าของเงิน'
คนรุ่นใหม่ในสมัยนี้มองว่า เงิน หาง่าย เนื่องจากมีช่องทางที่มากมายในการหาเงิน โดยไม่ต้องทำงานประจำ จึงไม่รู้สึกว่า 'เงินที่ได้มามันมีค่าขนาดไหน'
คนที่ทำงานประจำ จะสร้างค่าให้กับตนเอง โดยเรียนรู้ที่จะอยู่กับคนในที่ทำงาน
คนที่ทำงานประจำ จะสร้างค่าให้กับตนเอง โดยฝึกความอดทนอดกลั้นเมื่อโดยดุด่า ว่ากล่าว
คนที่ทำงานประจำ จะสร้างค่าให้กับตนเอง เพราะเขาจะไม่โดดเดี่ยว มีคู่คิด คู่แข่งตลอดเวลา
คนที่ทำงานประจำ จะสร้างค่าให้กับตนเอง โดยพัฒนาทักษะการปรับตัวให้เข้ากับงานและคน
แม้ว่าบางครั้งหลายคนจะโหยหาสิ่งที่ทำงานไม่ประจำทำเงินกว่า แต่คิดหรือไม่ว่าค่าของคุณ อาจจะไม่คุ้มกับเงินที่ได้มา เพราะมันถูกตัดทอนด้วยความโดดเดี่ยว อาจจะมีความสุขกับเงินแค่กองเดียว แต่ขาดการฝึกทักษะการเรียนรู้ที่จะเข้ากับสังคม และจมปลักอยู่กับความคิดตัวคนเดียว
คุณจะซื้อคุณค่าความเป็นคนของคุณด้วยงานแบบไหนดี? บางครั้งเราอาจจะเลือกงานที่ชอบ แต่หลงลืมไปว่างานที่ชอบ มันสามารถเลี้ยงตัวเองได้หรือเปล่า
มีเรื่องเล่าอยู่ว่า ครั้งหนึ่งพ่อของทาร์ซานเจ้าป่า ถูกจับในข้อหาคือ ไม่ให้การศึกษากับลูก ปล่อยให้ลูกไปเผชิญชีวิตอยู่ในป่ากับบรรดาเหล่าสิงห์สาราสัตว์
เมื่อผู้พิพากษาถามว่า ทำไมจึงทำเช่นนั้น พ่อของเขาจึงพูดขึ้นว่า เพราะเขาต้องการให้ลูกได้ 'เรียนรู้วิธีการเอาตัวรอด'
ชีวิตที่มีทางเลือกย่อมดีกว่าชีวิตที่ไร้หนทาง บางครั้งทางเดินในชีวิตอาจมีให้เราเลือกแค่ 2 ทางคือ งานประจำ และงานไม่ประจำ
ถ้าเริ่มต้นชีวิตด้วยงานประจำ ก็จะทำให้เราได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีที่จะสะสมความอดทน อยู่กับความอดกลั้น หรือความอยุติธรรมในงานประจำ
สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เรา ได้ในสิ่งที่มีค่าที่สุด คือ เรียนรู้วิธีที่จะปรับตัวอยู่กับคนและรู้วิธีการเยียวยา และรักษารอยแผลในชีวิตจากงานประจำก่อนที่จะโบยบินไปสู่งานไม่ประจำ เพราะยังไง 'มนุษย์เงินเดือน ก็คือ เพื่อนแท้ของคุณ'
คุณมักจะลิืมเพื่อนแท้ของคุณในวันที่คุณได้ดี แต่คุณจะนึกถึงเขาในวันที่คุณไม่มีทางไป
บทความโดย:storylog