ในการดำเนินธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจประเภทไหน ย่อมมีบัญชีลูกหนี้กันทั้งนั้น ซึ่งบัญชีลูกหนี้เกิดขึ้นจากการขายสินค้าหรือบริการเป็นเงินเชื่อ ซึ่งในบางครั้งลูกหนี้ที่ว่าก็ไม่มาชำระเงินตามกำหนด ทำให้ธุรกิจขาดสภาพคล่อง ทำให้ธุรกิจต้องตัดบัญชีลูกหนี้เป็นค่าใช้จ่ายซึ่งทำให้เสียประโยชน์เชิงเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก และในบทความนี้จะมาพูดถึงความแตกต่างของหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ เรามาดูกันนะคะว่าแตกต่างกันยังไงบ้าง
หนี้สูญ Bad Debt (แบด เดบทฺ)
คือ ลูกหนี้ที่ได้ติดตามทวงถามถึงที่สุดแล้ว แต่ยังไม่ได้รับชำระหนี้และตัดจำหน่ายออกจากบัญชี
หนี้สงสัยจะสูญ Doubtful Accounts (เดาทฺ'ฟูล อะเคานทฺ')
คือ ลูกหนี้ที่คาดว่าจะเรียกเก็บเงินไม่ได้ และถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายของรอบระยะเวลาบัญชีนั้น แต่ไม่ถือเป็นค่าใช้จ่ายตามประมวลรัษฎากร
วิธีการบันทึกลูกหนี้ที่เก็บเงินไม่ได้มี 2 วิธีปฏิบัติ คือ
1.วิธีตัดจำหน่ายโดยตรง คือ ไม่บันทึกรายการจนกว่าในรอบระยะเวลาบัญชีที่มีหนี้สูญ จึงบันทึกเป็นผลเสียหายในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น
เดบิต หนี้สูญ xx
เครดิต ลูกหนี้ xx
2.วิธีตั้งค่าเผื่อ คือ จะประมาณการจำนวนหนี้ที่คาดว่าจะเรียกเก็บไม่ได้ โดยจากยอดขายหรือยอดลูกหนี้
เดบิต หนี้สงสัยจะสูญ xx
เครดิต ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ xx
*วิธีที่เป็นที่นิยมคือวิธีตั้งค่าเผื่อ เพราะจะสะท้อนให้เห็นถึงรายการความเคลื่อนไหวของบัญชี ที่เป็นประโยนช์ต่อการตัดสินใจในการทำธุรกิจ
ดังนั้นก่อนจะมีการบันทึกบัญชีหนี้สูญหรือบัญชีหนี้สงสัยจะสูญต้องเข้าใจถึงคำนิยาม ความหมายของสองคำนี้ก่อน เมื่อเข้าใจแล้วถึงจะสามารถบันทึกบัญชีได้โดยไม่ผิดหลักการบัญชีตามมาตรฐานการบัญชี ฉบับที่ 101 เรื่อง หนี้สงสัยจะสูญ และหนี้สูญ (ปรับปรุง 2559)
บทความโดย : http://mindphp.com