ถ้าใครที่ยังไม่ได้ไปเสียภาษีหรือ ยื่นแบบภาษีประจำปี แล้วละก็ อย่านิ่งนอนใจนะคะ รีบเข้าไปเสียภาษีให้ตรงเวลากันด้วย ไม่งันโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังขึ้นมา งานงอกแน่ๆเลยนะคะ หลายๆคนอาจจะเพิ่งเคย เสียภาษีครั้งแรก หรือยังไม่ค่อยเข้าใจว่า การโดยเรียกเก็บภาษีย้อนหลังมันเป็นยังไง ทำไมต้องมาเก็บฉันด้วย วันนี้ rabbit finance เลยจะมาบอกเล่าถึงที่มาที่ไปของการโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังกัน ว่าถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณ คุณจะมีวิธีรับมือกับมันอย่างไรบ้างค่ะ
การเก็บภาษีย้อนหลัง (Retroactive tax) จะเกิดขึ้นหลังจากมีการตรวจสอบภาษีย้อนหลัง ซึ่งจะเป็นการป้องปรามทางภาษีอากร โดยการตรวจสอบภาษีย้อนหลังจะดำเนินการโดย 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษี คือ
ในที่นี้เราจะพูดถึง การเรียกเก็ยภาษีย้อนหลังโดย กรมสรรพากร นะคะ เพราะ มันจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้เสียภาษีโดยกว้าง ทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมทั้ง ภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือการเก็บภาษีทางอ้อม หรือ VAT ด้วยนั่นเอง
การที่คุณโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังนั้น สันนิษฐานได้ว่ามาจาก 2 กรณี คือ
1. คุณยังไม่ได้จ่ายภาษี
2. คุณจ่ายภาษีไม่ถูกต้อง
ซึ่งข้อที่ 2 นั้นจะมีความซับซ้อนกว่า เพราะ มันอาจจะเป็นไปได้หลายกรณีทั้ง การจ่ายภาษีไม่ครบ การระบุรายได้ไม่ถูกต้อง การโดนเรียกจ่าย VAT ย้อนหลัง หรือการที่คุณตั้งใจจะหลีกเลี่ยงภาษี
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนก็ตาม คุณไม่มีทางรอดสายตาของกรมสรรพากรไปได้หรอกนะคะ เพราะเขาก็จะมีวิธีตรวจสอบภาษีย้อนหลังของเขาเช่นกัน
ถึงแม้ ผู้เสียภาษี ในประเทศไทยจะมีจำนวนไม่ใช่น้อย แต่กรมสรรพากรเขาก็มีวิธีตรวจสอบภาษีแบบทั่วถึงเช่นกัน มีวิธีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ
คือ การออกไปตรวจเยี่ยมผู้เสียภาษีด้วยตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเจอในกลุ่มผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจมากกว่า
ใช้กับผู้ที่ทำธุรกิจการค้าขายทั้งในประเทศและส่งออก ซึ่งการนับสต็อกสินค้าจะทำให้ทราบว่าผู้ประกอบการได้เสียภาษีครบถ้วนหรือไม่ นั่นเอง
การทำ ใบกำกับภาษีปลอม เป็นอีกหนึ่งวิธีหลีกเลี่ยงภาษียอดฮิต ดังนั้น กรมสรรพากรจึงใช้วิธีการตรวจสอบภาษีด้วยการสอบยันใบกำกับภาษี เพื่อดูว่ามีการปลอมขึ้นมาบ้างไหม จากนั้นจึงคิดคำนวณภาษีที่ถูกหลีกเลี่ยงไปพร้อมกับเรียกเก็บย้อนหลังค่ะ
วิธีนี้จะใช้ตรวจภาษีกับบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นวิธีที่ทางกรมสรรพากรจะใช้บ่อยมาก
วิธีนี้จะใช้ในกรณีที่สงสัยว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษีจำนวนมากและชัดเจน โดยจะเข้าทำการตรวจค้นเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมทั้งยึดและอายัดบัญชีรวมถึงเอกสารต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการหลีกเลี่ยงภาษีไว้ด้วย
กรมสรรพากรจะทำการออกหมายเรียกเพื่อตรวจสอบภาษี โดยผู้เสียภาษีจะต้องส่งมอบบัญชีและเอกสารต่างๆ ให้พนักงานทำการตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่ามีการหลีกเลี่ยงภาษีก็จะดำเนินการเรียกคืนภาษีย้อนหลังต่อไป
เห็นมั้ยคะว่า การหลีกเลี่ยงภาษีไม่ง่ายอย่างที่คุณคิด เพราะฉะนั้น จ่ายภาษีให้ถูกต้องและครบถ้วนตั้งแต่แรกดีกว่านะคะ
สำหรับการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของ บุคคลธรรมดาหรือ นิติบุคคลนั้น จะมีอายุความตามหมายเรียก ภายใน 2 ปี นับจากวันที่ยื่นภาษี แต่ถ้ามีหลักฐานว่าบุคคลนั้นจงใจ หลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี จริง จะสามารถขยายเวลาขออายุความไปได้ถึง 5 ปี ค่ะ
นอกจากนั้น สำหรับผู้ที่ไม่ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเลยและถูกตรวจพบภายหลัง ก็จะมีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเช่นกัน โดยจะยึดเอาตามระยะเวลาอายุความทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นระยะเวลา 10 ปีนั่นเอง
กรณีที่เป็นภาษีธุรกิจจะ สามารถเรียกเก็บย้อนหลังได้มากถึง 10 ปี ตาม มาตรา 193/31 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียกแต่อย่างใด ซึ่งอายุความเรียกเอาหนี้ภาษีอากรคืน จะนับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดการยื่นแบบภาษีค่ะ
ถ้าหากคุณโชคร้าย โดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังขึ้นมา ในกรณีที่คุณผิดจริง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจาก ไปจ่ายภาษี ค่ะ
แต่ถ้าคุณไม่ได้มีความผิดจริง ก็สามารถนำหลักฐานต่างๆไปเข้าพบกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรได้เพื่อตรวจสอบความจริงต่อไปค่ะ
และสำหรับใครที่อยากจะแน่ใจว่าเราจะไม่โดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังแน่นอน มีวิธีง่ายๆมาแนะนำ ดังนี้ค่ะ
1. ตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารเกี่ยวกับรายรับของตนเองให้เรียบร้อยก่อนยื่นภาษี
2. ตรวจสอบดูว่ารายรับของเราอยู่ในเงินได้ประเภทไหนกันแน่ (เนื่องจากมันมีผลกับการหักค่าใช้จ่ายค่ะ)
3. ตรวจสอบรายการลดหย่อน ที่มีสิทธิใช้ (เนื่องจากมีผลกับยอดคงเหลือเงินได้สุทธิ)
4. หาผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบความถูกต้องในการคำนวณภาษีอีกครั้ง
เท่านี้คุณก็จะสามารถเสียภาษีได้อย่างถูกต้อง และไม่ต้องโดนเรียกเก็บภาษีย้อนหลังแล้วละค่ะ
บทความโดย: https://rabbitfinance.com