ความสำคัญของข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน หมายถึง บุคคลหรือกิจการที่สามารถควบคุมบุคคลหรือกิจการอื่นหรือสามารถใช้อิทธิพลอย่างเป็นสาระสำคัญในการตัดสินใจทางการเงินหรือกำหนดนโยบายการดำเนินงานเหนือบุคคลหรือกิจการอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างกิจการกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันเป็นลักษณะตามปกติของการประกอบธุรกิจการค้า เช่น กิจการซื้อ หรือขาย หรือลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ความสัมพันธ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของกิจการที่เสนอรายงานได้เนื่องจากรายการที่เกิดขึ้นระหว่างกัน อาจเป็นรายการที่มีการกำหนดราคาไว้แล้ว (ซึ่งไม่ใช่รายการที่มีราคา ซึ่งสามารถต่อรองกันโดยอิสระ) การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันจึงมีความสำคัญ เนื่องจากผู้ใช้งบการเงินจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน รวมทั้งประเภทและองค์ประกอบของรายการบัญชีที่เกี่ยวข้องกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันด้วย
ผลการดำเนินงานและฐานะการเงินของกิจการอาจได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์กับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันแม้ไม่มีรายการระหว่างกัน การมีความสัมพันธ์เพียงเล็กน้อยกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันอาจเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อกิจการ ตัวอย่างเช่น บริษัทย่อยอาจเลิกความสัมพันธ์กับคู่ค้าเมื่อบริษัทใหญ่ซื้อบริษัทย่อยอีกแห่งหนึ่งซึ่งทำธุรกิจประเภทเดียวกับคู่ค้า หรือกิจการหนึ่งอาจระงับกิจกรรมบางอย่างเพราะได้รับอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญจากอีกกิจการหนึ่ง เช่น บริษัทย่อยอาจได้รับคำสั่งจากบริษัทใหญ่ไม่ให้ดำเนินการด้านวิจัยและพัฒนาจากเหตุผลดังกล่าว ข้อมูลเกี่ยวกับรายการบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ยอดคงค้างของรายการเหล่านั้น และความสัมพันธ์กับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน จึงมีผลกระทบต่อผู้ใช้งบการเงินในการประเมินการดำเนินงานของกิจการ ความเสี่ยงและโอกาสทางธุรกิจของกิจการนั้นๆ
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 24 (ปรับปรุง 2555) เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ให้คำนิยามของบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน และอธิบายถึงลักษณะของความสัมพันธ์ระหว่างกิจการที่เสนอรายงานกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันจนถึงขั้นที่ทำให้กิจการที่เสนอรายงานต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะของความสัมพันธ์กับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
ผลกระทบของความสัมพันธ์ที่ถือว่าเกี่ยวข้องกัน
ความสัมพันธ์ของบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน อาจมีผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของกิจการที่เสนอรายงานได้หลายลักษณะ เช่น
1. รายการค้าระหว่างกิจการที่เสนอรายงานกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันอาจไม่เกิดขึ้นหากบุคคลหรือกิจการนั้นไม่เกี่ยวข้องกับกิจการที่เสนอรายงาน เช่น บริษัทย่อยขายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ส่วนใหญ่ให้กับบริษัทใหญ่เนื่องจากไม่มีตลาดรองรับสินค้า เป็นต้น
2. รายการบัญชีที่เกิดขึ้นกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันมีจำนวนมากและแตกต่างอย่างชัดเจนกับรายการบัญชีที่เกิดขึ้นกับบุคคลหรือกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกัน เช่น บริษัทใหญ่ให้บริษัทย่อยกู้ยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย เป็นต้น
3. ความสัมพันธ์ระหว่างกันอาจมีอิทธิพลอย่างเป็นสาระสำคัญทำให้ไม่เกิดกิจกรรมหรือรายการบัญชีบางอย่าง เช่น บริษัทย่อยได้รับคำสั่งจากบริษัทใหญ่ไม่ให้ทำวิจัยและพัฒนาที่เป็นของบริษัทย่อยเอง เป็นต้น
ข้อควรพิจารณาในการรายงานข้อมูลบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
รายการระหว่างบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันมักก่อความยุ่งยากให้กับนักบัญชี เนื่องจากรายการเหล่านี้เป็นรายการค้าที่ไม่เป็นไปตามธุรกิจปกติ หากกิจการไม่เสนอข้อมูลตามข้อเท็จจริงก็อาจทำให้ผู้ใช้งบการเงินเข้าใจผิด การรายงานข้อมูลบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันที่สำคัญ มีข้อพิจารณาดังนี้
1. การวัดมูลค่ารายการ
รายการค้าระหว่างบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันอาจไม่เป็นการแลกเปลี่ยนหรือต่อรองกันอย่างเป็นอิสระ (Arm’s Length Basis) หรือไม่เป็นไปในลักษณะที่มีการแข่งขันอย่างเสรี เช่น การกู้ยืมด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด การขายสินค้าโดยไม่คำนึงถึงราคาตลาด การให้บริการโดยไม่คิดมูลค่าซึ่งจะเป็นผลให้การวัดค่าทางบัญชีไม่เหมาะสม นอกจากนี้ การกำหนดราคาโอนที่ไม่เหมาะสมจะเป็นช่องทางให้กรมสรรพากรเข้ามาประเมินภาษีได้
2. การจัดทำรายงาน
ความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องก่อให้เกิดรายการบัญชีจำนวนมาก นักบัญชีจะต้องพิจารณาเปิดเผยรายการที่เห็นว่าจะมีผลกระทบอย่างเป็นสาระสำคัญต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของกิจการเพื่อให้ข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงิน ทั้งนี้ ต้องพิจารณาประโยชน์ที่จะได้รับกับต้นทุนที่สูญเสียไปควบคู่กันไปด้วย
3. การเปิดเผยข้อมูล
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 24 (ปรับปรุง 2555) เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน กำหนดให้กิจการต้องเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกันในทุกกรณีที่มีการควบคุมเกิดขึ้น แม้ว่าจะไม่มีรายการค้าระหว่างกันเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ เพื่อให้ข้อมูลกับผู้ใช้งบการเงินได้ทราบผลกระทบที่มีต่อการเสนอรายงาน บางครั้งจึงเป็นการยากที่จะระบุว่ารายการใดควรเปิดเผย การเปิดเผยข้อมูลมากเกิดความจริงความจำเป็นก็อาจทำให้งบการเงินขาดนัยสำคัญและทำให้เกิดความยุ่งยากในการตีความ ผู้บริหารอาจต้องใช้ดุลยพินิจในการเลือกรายการที่ควรเปิดเผย โดยต้องเปิดเผยข้อมูลให้ถูกต้องและทันเวลา มาตรฐานการบัญชีฉบับดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้มั่นใจว่างบการเงินของกิจการได้เปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นเพื่อทำให้ผู้ใช้งบการเงินตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่ว่าฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของกิจการอาจได้รับผลกระทบจากการที่กิจการมีบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน และจากการมีรายการและยอดคงค้างกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน
บทความโดย : http://www.sanpakornsarn.com