มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 17 (ปรับปรุง 2552) เรื่องสัญญาเช่าได้ให้ความหมายของสัญญาเช่าไว้ว่า สัญญาเช่าหมายถึง สัญญาหรือข้อตกลงที่ผู้ให้เช่าให้สิทธิแก่ผู้เช่าในการใช้สินทรัพย์สำหรับช่วงเวลาที่ตกลงกัน เพื่อแลกเปลี่ยนกับค่าตอบแทนซึ่งได้รับชำระในงวดเดียวหรือหลายงวด
จากความหมายของสัญญาเช่า สามารถสรุปลักษณะทั่วไปของสัญญาเช่าได้ดังนี้
1. เป็นการตกลงของผู้เช่าและผู้ให้เช่าในอันที่จะให้สิทธิแก่ผู้เช่าได้ใช้สินทรัพย์ของผู้ให้เช่าในช่วงเวลาที่ตกลงกัน โดยสัญญาเช่าจะมีทั้งแบบบอกเลิกได้และบอกเลิกไม่ได้ ในกรณีที่บอกเลิกไม่ได้ แต่มีการบอกเลิกผู้เช่าจะต้องเสียค่าเบี้ยปรับเนื่องจากการบอกเลิกสัญญาก่อนกำหนด
2. ผู้เช่าตกลงจะให้ค่าตอบแทนในการใช้สินทรัพย์นั้นแก่ผู้ให้เช่า ในกรณีที่ผู้เช่าผิดนัดชำระหนี้ผู้ให้เช่าสามารถเรียกร้องให้ผู้เช่าจ่ายชำระหนี้ส่วนที่ยังคงค้างอยู่รวมถึงค่าใช้จ่ายส่วนเพิ่ม หากผู้เช่ายังไม่ชำระ ผู้ให้เช่าสามารถเรียกสินทรัพย์ที่เช่านั้นคืนและนำไปขายต่อ หากราคาที่ขายได้นั้นน้อยกว่าจำนวนหนี้ผู้ให้เช่าสามารถเรียกร้องเพิ่มเติมได้
3. ค่าตอบแทนดังกล่าวผู้ให้เช่าอาจจะได้รับในงวดเดียวหรือหลายงวดก็ได้
4. สัญญาเช่าตามความหมายนี้รวมถึงสัญญาเช่าสินทรัพย์ที่ผู้เช่ามีสิทธิที่จะได้รับกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ที่ผู้เช่าเช่าเมื่อผู้เช่าปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันสัญญาเช่าดังกล่าว ในบางครั้งเรียกว่าสัญญาเช่าซื้อ ซึ่งในการเช่าซื้อนี้กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ยังคงเป็นของผู้ขายอยู่ จนกระทั่งผู้ขายได้รับเงินครบถ้วนแล้วจึงโอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ขายนั้นไปให้กับผู้ซื้อ เมื่อมีการเช่าซื้อเกิดขึ้นโดยทำเป็นหนังสือสัญญาเช่าซื้อ ผู้ซื้อซึ่งผ่อนชำระยังไม่ครบถือว่าเป็นผู้เช่าเท่านั้น หากผู้ซื้อผิดสัญญาไม่ยอมจ่ายเงิน ผู้ขายมีสิทธิ์ที่จะทำการยึดสินค้านั้นกลับคืนมา ในกรณีที่ผู้ซื้อจ่ายชำระเงินครบถ้วนแล้วผู้ขายจึงจะโอนกรรมสิทธิ์ได้
บทความโดย : https://sites.google.com/