การเพิ่มทุนเพื่อลงทุนธุรกิจใหม่ อาจจะมาในรูปของการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ตั้งแต่ไม่มีอะไรเลย หรือการซื้อกิจการที่ดำเนินการอยู่แล้วเข้ามา
การค้นหาหุ้นประเภทนี้ ให้ตามอ่านข่าวใน SET ทุกวันเดียวก็จะมีข่าวที่ห้วข้อประมาณ สาระสนเทศแสดงการซื้อสินทรัพย์ พร้อมเรียกประชุม เขาก็จะบอกว่า ซื้ออะไร ขนาดรายการเท่าไร ถ้าเป็นสินทรัพย์ที่มีขนานใหญ่มากๆ จะต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นถ้าเราสนใจก็สามารถ ซื้อไว้ 100 หุ้นเพื่อเข้าประชุมได้
เครื่องมือในการวิเคราะห์ที่คนส่วนใหญ่คาดไม่ถึงคือ รายงานปรึกษาการเงินอิสระที่เป็นเอกสารแนบในวันประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติเพิ่มทุน เนื้อหาค่อนข้างเยอะแต่เราไม่จำเป็นต้องอ่านทุกตัวหนังสือก็ได้ สิ่งที่ต้องเน้นๆ คือ หัวข้อการประเมินความเป็นไปได้ของโครงการ โดยที่ปรึกษาทางการเงินจะทำประมาณการกระแสเงินสดในอนาคตมาให้ หน้าที่เราคือเข้าไปวิเคราะห์ความน่าจะเป็นว่ามีโอกาสเป็นไปได้แค่ไหน โดยพิจารณาจากสมมติฐานที่ถูกนำมาใช้ในการประมาณการ เช่นสมมติฐานทางด้านรายได้ รายจ่าย เงินทุนหมุนเวียน และการลงทุน
เพื่อเพิ่มความมั่นใจในที่ประชุมผู้ถือหุ้นก็เอาสมมติฐานพวกนี้แหละไปถามในที่ประชุม เพราะวันนั้นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระจะเข้าร่วมประชุมด้วย สงสัยอะไรก็ถามได้เลย
ผลกระทบต่อกำไร ถ้าเราไปลงทุนซื้อธุรกิจที่มีกำไรอยู่แล้ว ให้เราดูว่าบริษัทที่ซื้อมา มีกำไรเท่าไร แล้วจับคูณสัดส่วนการถือหุ้นจะได้กำไรของบริษัทที่เติบโต ถ้าอนาคตกำไรโตมากกว่าสัดส่วนของหุ้นที่เพิ่มก็สมควรที่จะใส่เงินเพิ่มได้
การดูว่าซื้อกิจการมาแล้วดีหรือไม่ ดูเทียบกับกลยุทธ์ขององค์กรด้วยว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้าจะไปซื้อกิจการเพื่อหวังว่าจะลดต้นทุน ผลในงบรวมก็ควรจะมีอัตรากำไรสูงขึ้น การมองผลของธุรกิจโดยรวมให้ดูที่ ROA ถ้าไปลงทุนแล้ว ROA ตกลงแปลว่าใช้เงินไปไม่คุ้มเพราะลงทุนแล้วได้ผลตตอบแทนที่ต่ำกว่าเดิม
ตัวอย่างหุ้นที่เพิ่มทุนมาทำธุรกิจใหม่เช่น
TCMC ไปซื้อโรงงานเฟอร์นิเจอที่อังกฤษ
ลักษณะการเข้าทำรายการ |
บทความโดย : www.investidea.in.th