การทำธุรกิจต่างๆนั้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจในรูปแบบใดก็ตาม ก็จำเป็นจะต้องมีเงินมาลงทุนในการสร้างสินค้าและบริการขึ้นมา เพื่อให้สามารถนำสิ่งเหล่านี้ไปขายให้กับลูกค้าได้ ซึ่งเงินลงทุนนั้นเราสามารถหาได้จากผู้ที่สนใจในธุรกิจของเราและสนใจจะมาลงทุนด้วย โดยการซื้อจำนวนหุ้น ตามราคาหุ้นที่กิจการกำหนดขึ้น จากนั้นเมื่อได้รายได้แล้วกิจการจะต้องนำรายได้มาแบ่งเงินปันผลให้กับผู้ลงทุนด้วย โดยจะแบ่งตามจำนวนที่ผู้ถือหุ้นได้ซื้อจำนวนหุ้นไป เมื่อได้ผลิตสินค้าและบริการนานๆ เข้า อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ก็เสื่อมสภาพไปตามเวลา เครื่องมือบางอย่างอาจจะพังจนไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ ดังนั้นกิจการจึงต้องซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือใหม่ เพื่อให้กิจการสามารถผลิตสินค้าและบริการต่อไปได้ และอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานให้สามารถใช้งานผลิตสินค้าและบริการให้ได้จำนวนมากขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือมาแล้ว พนักงานบัญชีจะต้องบันทึกข้อมูลรายจ่ายที่เกิดขึ้น โดยจะบันทึกลงในบัญชีทั่วไป บัญชีแยกประเภทซึ่งจะลงในสินทรัพย์จากนั้นจึงจะทำงบทดลองและงบแสดงฐานะการเงินตามหลักการบัญชี เพื่อให้บริษัทได้นำข้อมูลไปพิจารณาต่อไป
Capital Expenditures (แคพพิเทิล อิคซเพนดิเชอะซ) มีตัวย่อว่า CAPEX คือ รายจ่ายเพื่อการได้มาของสินทรัพย์ที่จะนำมาใช้ในการดำเนินการเพื่อหารายได้ ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็นสินทรัพย์ถาวรที่มีรูปร่างเช่น ที่อิน อาคาร เครื่องจักร เครื่องใช้สำนักงาน เป็นต้น และสินทรัพย์ถาวรที่ไม่มีรูปร่างเช่น ค่าลิขสิทธิ์ ค่าสัมปทาน เป็นต้น ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้เป็นสินทรัพย์ที่มีอายุยาวและกิจการจำเป็นจะต้องรับผิดชอบในการซื้อสินทรัพย์เหล่านี้เพื่อมาแทนที่อุปกรณ์และเครื่องมือของเก่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าและบริการและเพิ่มอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานได้
ดังนั้น CAPAX จึงเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพื่อใช้สำหรับซื้อสินทรัพย์ถาวร เมื่ออายุการใช้งานของสินทรัพย์ต่างๆ ได้เก่าลง จนมีสภาพเกือบพังหรือใช้งานต่อไม่ได้แล้ว กิจการก็ควรจะซื้อสินทรัพย์ใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานและเป็นการพัฒนากิจการให้เจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอีกด้วย โดยกิจการจะต้องชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ซึ่งพนักงานบัญชีจะลงบันทึกบัญชีในค่าใช้จ่ายของหมวดสินทรัพย์
บทความโดย : http://mindphp.com
