การทำบัญชีนั้นอย่างที่บอก มีสองประเภทหลักๆ คือการทำบัญชีการเงินและการทำบัญชีบริหาร ซึ่งการทำบัญชีทั้งสองอย่างก็มีความแตกต่างในเรื่องของการดำเนินงานที่แตกต่างกัน ทั้งรูปแบบการดำเนินการ การแบ่งประเภทต่างๆ ก็สามารถแยกออกมาเป็นข้อย่อยได้อีกดังต่อไปนี้
1.ธุรกิจประเภทแบบที่ต้องซื้อมาแล้วขายไป เช่นพาณิชยกรรม เพราะว่าเป็นธุรกิจที่ต้องซื้อสินค้าต่างๆแบบสำเร็จรูปมาเพื่อขาย รายได้หลักๆในการทำธุรกิจประเภทนี้ก็คือรายได้ที่มาจากการค้าขายนั่นเอง การจัดทำรายงานต่างๆก็จะไม่ซับซ้อน เนื่องจากไม่ต้องใช้ต้นทุนในการผลิต เพราะว่าต้องใช้ต้นทุนในการซื้อมาเพื่อขายเพียงอย่างเดียว
2.ธุรกิจประเภทผลิต เป็นธุรกิจแบบอุตสาหกรรม ซึ่งต้องเน้นในเรื่องของการซื้อวัตถุดิบเป็นหลัก เพื่อนำมาเข้าสู่กระบวนการผลิตต่อไป พร้อมทั้งใส่แรงงานและค่าผลิตต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นสินค้าประเภทสำเร็จรูป ทั้งนี้เอง รายได้หลักๆ มันก็จะมาจากการค้าขาย การทำบัญชีรายงานก็จะมีความยุ่งยากมากขึ้น เพราะว่ามีหลายขั้นตอน เนื่องจากต้องมีกาคำนวณในเรื่องของต้นทุนการผลิตด้วย
3.ธุรกิจที่ต้องใช้การบริหารต้องมีการให้บริการอยู่ด้วย ทั้งนี้ก็จะมีรายได้ต่างๆที่มาจากการบริการ ส่วนนี้จะคิดจากลูกค้า ทำให้มีรายได้และค่าธรรมเนียม ไม่ว่าจะเป็นรายได้จากค่านายหน้า รายได้จากค่าบริการ รายได้จากค่าเช่า ฯลฯ ในส่วนของต้นทุนก็จะเป็นต้นทุนจากแรงงานเป็นหลัก
ในส่วนของรูปแบบธุรกิจนั้นก็จะมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน คือ
1 สำหรับกิจการเข้าของคนเดียว แบบนี้ก็ต้องทำบัญชีรับผิดชอบหนี้สินแบบไม่มีลิมิต และจะไม่สามารถระดมทุนได้ เพราะว่าส่วนใหญ่จะเป็นการดำเนินการด้วยตนเอง
2.ห้างหุ้นส่วน ธุรกิจประเภทนี้จะต้องดำเนินการตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อลงหุ้นกัน แล้วต้องทำบัญชีตามข้อตกลงพร้อมร่วมกันบริหารงาน แต่ห้างหุ้นส่วนจะมี 2 ประเภทคือแบบสามัญ คือต้องทำบัญชีรับผิดชอบหนี้สินไม่มีลิมิต มีทั้งแบบจดทะเบียนและไม่จดทะเบียน อีกหนึ่งแบบคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด แบบนี้คือต้องทำบัญชีแบบมีขอบเขตและจำกัดความรับผิดชอบ
3.ธุรกิจแบบบริษัทจำกัด จะต้องมีอย่างน้อย 7 คนขึ้นไป รวมกันลงทุนแบบนิติบุคคล แล้วทำบัญชีรับผิดชอบในหนี้สินไม่เกินจำนวนเงินของมูลค่าหุ้น
บทความโดย : https://www.pangpond.com