เห็นคนพูดกันอยู่ตลอด จดแล้วรวย จดแล้วไม่จนบ้าง บางคนอดทนจดอยู่ได้ 3 เดือนแล้วก็เลิกจดบัญชีไป เพราะมองว่าไม่เห็นได้ประโยชน์อะไร ความคิดข้างต้นอาจไม่ใช่เรื่องแปลก หลายๆคนก็คงจะคิดแบบนั้น นี่คือตัวอย่างของการให้ความรู้ทางการเงินแบบครึ่งๆกลางๆ
ในบ้านเรามักจะเป็นเช่นนี้จะสือสาร จะให้ความรู้อะไรก็มักทำแบบ พอเห็นฉันทำแล้วนะ ฉันส่งเสริมแล้วนะ แต่มักจะทำไม่ครบไม่สมบูรณ์ และมักจะขาดการบูรณาการให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง พูดถึงคำว่า บูรณาการอาจจะดูดีในสายตาหลายๆคนสอนกันว่าให้จดบัญชีสอนกันตั้งแต่เด็กๆ ว่าจดแล้วรวย จดแล้วไม่จน แต่คนที่สอนไม่เคยบอกกันเลยว่า เราจดบัญชีไปเพื่ออะไร จดแล้วต้องทำอะไรต่อ เพราะถ้าจดแล้วไม่ได้ทำอะไรต่อ แค่ลงรายรับรายจ่ายบให้ครบ 30 วันของเดือนแล้วก็เริ่มต้นใหม่อย่างนี้จะได้รับประโยชน์ได้อย่างไร
จากความคิดข้างต้นที่มองไม่เห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการจดบัญชี ถ้าจะให้ปูความคิดจริงๆ เราต้องเริ่มกันที่ความเข้าใจในเรื่องของกระแสเงินสด และสภาพคล่องกันก่อน บริษัททุกบริษัทนอกจากจะมีงบกำไร ขาดทุน และงบดุลแล้ว ก็ยังไม่งบกระแสเงินสดเพื่อคอยติดตามและคอยตรวจสอบว่าเงินสดในมือของเขาหมุนเวียนอย่างไร ได้มากจากทางไหนบ้าง และจ่ายให้กับใครบ้าง เมื่อไหร่ อย่างไร และเหลือยอยู่เท่าใดบ้าง เพียงพอหรือไม่
จะว่าไปบริษัทส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการไหลของเงินสด ไม่แพ้กำไรเลยทีเดียว เพราะสำหรับธุรกิจแล้วนั้น ขาดทุนอาจยังไม่ตาย แต่เมื่อขาดเงินอาจจะตายได้ในทันที ในบางครั้งบริษัทขายของจนมีกำไร แต่กำไรที่ได้เป็นเงินเชื่ออีก 2 เดือนข้างหน้าถึงจะได้สตางค์ แต่เวลาซื้อวัตถุดิบมาผลิตต้องใช้เงินสด แบบนี้ต่อให้มีกำไรแต่หากยังเก็บเงินไม่ได้วันนึงก็อาจจะมีโอกาสที่เงินขาดมือไม่พอที่จะซื้อวัตถุดิบ แล้วก็อาจจะพังกันทั้งวงจรได้ไม่ยาก
กลับมาที่เราๆท่านๆ ก็อาจจะไม่ต่างกันเราขาดเงินก็อาจจะตายได้เลยก็ได้ หรือบางคนอาจจะไม่ตายในทันที แต่ตายผ่อนส่งด้วยการกู้คนอื่นมาจ่าย ยิ่งมนุษย์เงินเดือน รับเงินเดือน เดือนละ 1 ครั้ง แต่มีเรื่องให้ใช้จ่ายตลอด 30 วัน หากไม่ติอดตามหรือตรวจสอบให้ดี ก็มีโอกาสที่เงินเดือนจะใช้ไม่ถึงเดือนได้เหมือนกัน และนั่นก็คือเหตุผลที่เราควรจดบัญชีรายรับ-รายจ่าย
ประโยชน์ข้อแรกที่คุณจะได้รับจากการจดบัญชีก็คือ การรู้สถานะเงินสดในมือ ว่าเงินสดที่เหลือใช้ได้เท่าไหร่ แล้วเราจ่ายอะไรไปบ้างเพื่อจะวางแผนใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
ข้อที่สอง ข้อมูลการใช้จ่ายสามารถนำไปวิเคราะห์ได้ว่า เงินของคุณถูกใช้จ่ายไปกับเรื่องอะไรบ้าง ใช้จ่ายกับสิ่งไหนมากเกินไปหรือไม่ เช่น เดือนที่ผ่านมาอาจใช้จ่ายกับเรื่องอาหาร และเสื้อผ้ามากเกินไปหรือไม่ เมื่อรู้แล้วก็จะได้วางแผนการใช้จ่าย รวมถึงทำงบสำหรับเดือนต่อไปได้ถูกต้อง
ข้อที่สาม เป็นผลทางจิตวิทยา นั้นคือคนที่จดบันทึกจะมีสติ และตะหนักถึงเรื่องการใช้จ่ายตลอดเวลา ดังนั้นการระลึกถึงเงินในกระเป๋าเป็นประจำ จะช่วยให้เราบริหารจัดการเงินอย่างระมัดระวังได้มากยิ่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว
--------------------------------------------------------------------------------------------------
สุดท้ายนี้การจดบัญชีรายรับรายจ่าย จะทำให้คุณได้รับประโยชน์จากการได้รับรู้กระแสเงินสดในมือ และสิ่งที่ต้องจ่ายที่จะช่วยให้บริหารจัดการเงินของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ