เงินออมภาคสหกรณ์ไทยครึ่งแรกปี 2558 (13 ต.ค. 2558)

เงินออมภาคสหกรณ์ไทยครึ่งแรกปี 2558 (13 ต.ค. 2558)

โดย ..... นุจรินทร์ ตรีมงคล .....
         
          ปัจจุบันประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะความจำเป็นต้องพึ่งตนเองมากขึ้น ทำให้ คนวัยทำงานและผู้สูงอายุเริ่มออมเงินในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น ระดับการออมรวมของประเทศ (GDS – Gros
s Domestic Savings) ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2558 สถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น สัดส่วนการออมรวม (GDS) ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เท่ากับร้อยละ 34.18 แต่ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2558 สัดส่วนการออมรวม (GDS) ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มีการปรับตัวลดลงเป็นร้อยละ 23.48 (ที่มา : สำนักนโยบายการออมและ การลงทุน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง)
 
         ครั้งก่อนได้แสดงถึงเงินออมภาคสหกรณ์ไทย ปี 2557 ว่าเป็นอย่างไร มาครั้งนี้เป็นการต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว ซึ่งแสดงถึงเงินออมของภาคสหกรณ์ไทยในครึ่งปีแรกของปี 2558(ไตรมาส 1 และไตรมาส 2) รวมถึงแนวโน้มเงินออมของภาคสหกรณ์ไทย

          ภาคสหกรณ์ไทย ประกอบด้วย สหกรณ์ทุกประเภท (รวมชุมนุมสหกรณ์) และกลุ่มเกษตรกร 

          สมาชิกภาคสหกรณ์ไทย หมายถึง สมาชิกของสหกรณ์ สมาชิกของกลุ่มเกษตรกร และสหกรณ์ที่เป็นสมาชิกของชุมนุมสหกรณ์

          ไตรมาส (quarter) เป็นช่วงระยะเวลาสามเดือน ซึ่งแบ่งช่วงเวลา หนึ่ง ปี ออกเป็น สี่ ไตรมาส ในเชิงธุรกิจการพิจารณาผลประกอบการนิยมใช้ช่วงเวลาไตรมาสสำหรับการประเมินผล

          - ไตรมาสที่ 1 หมายถึงช่วงเดือน มกราคม ถึง มีนาคม 
          - ไตรมาสที่ 2 หมายถึงช่วงเดือน เมษายน ถึง มิถุนายน 
          - ไตรมาสที่ 3 หมายถึงช่วงเดือน กรกฎาคม ถึง กันยายน 
          - ไตรมาสที่ 4 หมายถึงช่วงเดือน ตุลาคม ถึง ธันวาคม

          ภาคสหกรณ์ไทย มีสหกรณ์ทุกประเภท และกลุ่มเกษตรกรที่รวบรวมข้อมูลได้ ไตรมาส 1 ( 31 มี.ค. 2558 ) จำนวน 11,110 แห่ง และไตรมาส 2 ( 30 มิ.ย. 2558 ) จำนวน 11,125 แห่ง มีจำนวนสมาชิกไตรมาส 1 ( 31 มี.ค. 2558 ) จำนวน 12.35 ล้านคน / แห่ง และไตรมาส 2 ( 30 มิ.ย. 2558 ) จำนวน 12.42 ล้านคน / แห่ง


          
          เงินออมภาคสหกรณ์ไทยไตรมาส 2 ( 30 มิ.ย. 2558 ) เป็นจำนวนเงิน 1.62 ล้านล้านบาท เฉลี่ยต่อสมาชิก เท่ากับ 130,719.55 บาท ส่วนใหญ่มาจากสหกรณ์นอกภาคการเกษตร เป็นจำนวนเงิน 1.51 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 93.25 ของเงินออมรวมภาคสหกรณ์ไทย ไตรมาส 2 รองลงมาได้แก่สหกรณ์ภาคการเกษตร เป็นจำนวนเงิน 1.09 แสนล้านบาท และกลุ่มเกษตรกร เป็นจำนวนเงิน 1,024.33 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งสหกรณ์ออมทรัพย์มีเงินออม มากที่สุด เป็นจำนวนเงิน 1.46 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 89.93 ของเงินออมรวมภาคสหกรณ์ไทย ไตรมาส 2

          แนวโน้มเงินออมรวม และเงินออมต่อสมาชิกของภาคสหกรณ์ไทยในภาพรวม ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2557 ถึงไตรมาส 2 ปี 2558 (6 ไตรมาส) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเงินออมรวมเพิ่มขึ้นจากจำนวนเงิน 1.45 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2557 เป็นจำนวนเงิน 1.62 ล้านล้านบาท ในไตรมาส 2/2558 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 2.31 ต่อไตรมาส และเงินออมเฉลี่ยต่อสมาชิกเพิ่มขึ้นจากจำนวนเงิน 118,592.70 บาท ในไตรมาส 1/2557 เป็นจำนวนเงิน 130,719.55 บาท ในไตรมาส 2/2558 คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 1.46 ต่อไตรมาส เมื่อพิจารณาจากแนวโน้ม 6 ไตรมาสที่ผ่านมา คาดว่าเงินออมภาคสหกรณ์ไทย ไตรมาส 3 ปี 2558 น่าจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 

          หลักปรัชญาพอเพียงมีข้อหนึ่ง กล่าวไว้ว่า พอเพียงในเศรษฐกิจ คือ ใช้ชีวิตอย่างเพียงพอ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตัดรายจ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นออก การออมเป็นปัจจัยสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ รองรับการลงทุน การผลิตของประเทศและการจ้างงาน อีกทั้งเป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิตในระยะยาวแก่ผู้ออมเองด้วย การออมคือการใช้จ่ายอย่างฉลาดมีแบบแผน แต่ไม่ใช่การตระหนี่ถี่เหนียวจนเกินไป ก็จะส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจได้เช่นกัน
https://www.cad.go.th
 679
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์