TH
TH
EN
062-310-5613
Menu
Home
Product
Sales Order
Purchase Order
Inventory Control
Accounts Receivable
Accounts Payable
General Ledger
Petty Cash
Cheque Receivable
Cheque Payment
Bank Adjustment
VAT & Withholding Tax
Sales Force Automation
Approve Center
Financial Management
Sale Analysis
Purchase Analysis
Audit and Internal Control
Security Administrator
Mobile Apps
API Lazada & Shopee
Work Flow
Pricing
ราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการให้บริการ
วิธีการชำระเงิน
Service
จองอบรมโปรแกรม
วีดีโอสอนการใช้งาน
คู่มือการใช้งาน
คำถามที่พบบ่อย FAQs
ข้อเสนอแนะโปรแกรม
การวางระบบบัญชี และการเริ่มต้นใช้งาน
รายละเอียดการ Update Version
นโยบายการรักษาข้อมูล
Customers
Site Reference
Partners สถาบันการศึกษา
More
โครงการเพื่อสังคม
ฟังก์ชันสำหรับสำนักงานบัญชี
เหตุผลที่เลือกใช้ myAccount Cloud
บัญชีโคตรง่าย myAccount Cloud
จองอบรมโปรแกรมก่อนซื้อ
News
Blog
Partners
Partners สำนักงานบัญชี
สถาบันการศึกษา
About Us
Our Story
Social Enterprise
Office Location
Our Business
Prosoft Group
Contact Us
ทดลองใช้งานฟรี
หน้าแรก
BLOG myAccount Cloud
บัญชีโคตรง่าย
วางแผนภาษี
วางแผนภาษี
ย้อนกลับ
หน้าแรก
BLOG myAccount Cloud
บัญชีโคตรง่าย
วางแผนภาษี
วางแผนภาษี
ย้อนกลับ
“ภาษี”
แค่ได้ยินคำนี้หลายคนก็ทำหน้าเบ้ ไม่อยากได้ยินซะแล้ว ทั้งๆ ที่ช่วงเดือนมีนาคมเราก็ทำหน้าที่พลเมืองดีจ่ายภาษีกันมาทุกปี แต่จนแล้วจนรอด... ภาษีก็ยังทำให้เราปวดหัวอยู่ร่ำไป
หลายคนอาจบอกว่าเรื่องภาษีง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก เพราะฝ่ายบุคคลคิดคำนวณภาษีแบบเบ็ดเสร็จมาให้ บริษัทไหนๆ เค้าก็ทำให้แบบนี้กันทั้งนั้น
จริงๆ วิธีลัดแบบนี้ก็ดีอยู่ แต่คุณไม่คิดบ้างหรือว่าฝ่ายบุคคลไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของคุณว่าคุณรับจ๊อบกี่งาน ผ่อนบ้านกี่หมื่น มีลูกเรียนอยู่ที่ไหน หรือทำบุญบริจาคทานไปสักกี่มากน้อย รายละเอียดหยุมหยิมขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่แม่ทูนหัวหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่บ้าน คงไม่มีใครอยากยุ่งวุ่นวายกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ของคุณนักหรอก เห็นทีคุณควรจะจัดการทุกอย่างด้วยตนเองก่อนดีกว่า
หลายคนแอบคิดในใจ... จะเสียเวลาไปทำไม จะทำวิธีไหน ก็ไม่ช่วยให้ประหยัดขึ้นมาได้สักกี่บาทหรอก หรือบางทีอาจจะคิดว่า... วางแผนภาษีก็เท่ากับโกงชาติ หาเรื่องเข้าคุกเข้าตารางเชียวนา!!!
อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ เราไม่ได้แนะนำให้คุณโกงภาษีหรือหนีภาษี แต่ให้รู้จักวางแผนภาษีอย่างถูกวิธีและถูกต้องตามกฎหมายต่างหาก
คำว่า
“การวางแผนภาษี”
คือ การเตรียมการเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน ในฐานะพลเมืองดี
และใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้ไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี
เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้น้อยลง ไม่ต้องเสียภาษีมากจนเกินไป รวมถึงไม่ต้องชำระภาษีเพิ่มหรือเสียเบี้ยปรับโดยใช่เหตุ
เมื่อเสียภาษีอย่างถูกต้อง ไม่ขาดไม่เกิน ก็เท่ากับว่าช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเสียภาษีได้ส่วนหนึ่ง และยิ่งถ้าคุณวางแผนภาษีเป็นอย่างดี ตัวเงินที่ประหยัดขึ้นมา ขี้คร้านจะทำให้คุณตาโต เพราะได้เงินคืนภาษีจำนวนไม่น้อย ซึ่งภาษีที่ได้กลับมานี้เราอาจนำไปต่อยอดให้ออกดอกออกผลสร้างเงินกลับมาให้เราได้
ในขณะที่
“การโกงภาษี”
หรือ
“การหนีภาษี”
คือ การไม่ยอมเสียภาษี หรือความพยายามที่จะเสียภาษีให้น้อยลงโดยฝ่าฝืนกฎหมายภาษีอากร เช่น จงใจไม่นำรายได้มายื่นแบบแสดงรายการเสียภาษี ยื่นรายการไม่ครบ หรือแสดงรายการค่าใช้จ่ายสูงกว่าความเป็นจริง ฯลฯ ซึ่งการกระทำเหล่านี้ล้วนมีความผิดทางกฎหมาย และจะถูกลงโทษตามกฎหมายภาษีอากร
ดังนั้น...
การวางแผนภาษีที่ดีจึงควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจในรายละเอียดเกี่ยวกับภาษีเงินได้ที่เราจะต้องเสีย และรู้จักใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้คุ้มค่า โดยหลักในการวางแผนภาษี คือ
รู้ประเภทของรายได้ รู้ค่าใช้จ่ายที่หักภาษีได้ รู้ค่าลดหย่อนเพื่อลดภาษี รวมถึงรู้วิธีการคำนวณภาษี และรู้ช่องทางการยื่นภาษี
เริ่มที่
“รายได้”
เพราะการที่เราต้องเสียภาษีก็เนื่องมาจากการมีรายได้เป็นเหตุ ซึ่งในวิถีชีวิตของคนเสียภาษีส่วนใหญ่มาจากการเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือเป็นลูกจ้างขององค์กรต่างๆ เป็นหลัก การจัดการกับภาษีเงินได้ที่ได้จากเงินเดือนหรือค่าจ้างจึงไม่ยากเย็นนัก หากคุณไม่แอบไปรับจ๊อบหารายได้เสริมจากที่ไหน แต่หากคุณมีเวลาไปรับจ๊อบอื่นด้วย ก็ต้องวางแผนให้ดีว่าจะเลือกรับเงินเป็นประเภทไหน รับเป็นเงินเดือน หรือรับเป็นงานเหมา เพราะนั่นจะส่งผลต่อจำนวนภาษีที่คุณต้องจ่าย
ดูเผินๆ เหมือนว่ารับเงินประเภทไหนก็เหมือนๆ กันแหละ ยังไงก็ได้เงินมาเหมือนกัน!!! บอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าไม่เหมือนกันแน่นอน และถ้าคุณตัดสินใจผิดพลาดไป คุณอาจต้องเสียใจกับเงินหลายหมื่นหลายพันที่หายวับไปกับตา
ทำไมหน่ะเหรอ? ก็เพราะว่า...
รายได้แต่ละประเภทจะหัก “ค่าใช้จ่าย” ได้ไม่เท่ากันนะสิ
ตัวอย่างเช่น รายได้ที่เป็นเงินเดือน กฎหมายให้หักค่าใช้จ่ายได้ 50% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ในขณะที่รายได้จากอาชีพบางอย่างสามารถหักค่าใช้จ่ายได้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เช่น ขายของชำ ซักอบรีด ร้านอาหาร หรือร้านตัดผม สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายเหมา 60% ของรายได้ทั้งปี หรือเลือกหักค่าใช้จ่ายตามจริงก็ได้
ดูเผินๆ เหมือนว่ารับเงินประเภทไหนก็เหมือนๆ กันแหละ ยังไงก็ได้เงินมาเหมือนกัน!!! บอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าไม่เหมือนกันแน่นอน และถ้าคุณตัดสินใจผิดพลาดไป คุณอาจต้องเสียใจกับเงินหลายหมื่นหลายพันที่หายวับไปกับตา
นี่คือสิทธิประโยชน์จากการหักค่าใช้จ่ายที่กฎหมายได้เปิดกว้างไว้ให้ ซึ่งนอกจากค่าใช้จ่ายแล้ว ยังมีอีกสิทธิประโยชน์หนึ่งที่เราไม่ควรละเลย นั่นก็คือ
การนำเอา “ค่าลดหย่อน” ต่างๆ มาหักออกจากรายได้ ค่าลดหย่อนเหล่านี้จะเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้ตัวเลขรายได้จริงลดลงและเสียภาษีน้อยลง
เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท ถ้าแต่งงานก็สามารถหักค่าลดหย่อนคู่สมรสได้อีก 60,000 บาท หรือถ้ามีลูกอยู่ในวัยเรียน ก็สามารถหักค่าลดหย่อนบุตรได้อีกคนละ 30,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนบุตร รวมถึงค่าลดหย่อนสำหรับบรรดาลูกกตัญญูทั้งหลายที่เลี้ยงดูพ่อแม่อายุ 60 ปีขึ้นไปและไม่มีรายได้ ซึ่งสามารถหักค่าลดหย่อนบิดามารดาได้อีกคนละ 30,000 บาท แต่มีเงื่อนไขว่าจะให้สิทธินี้แก่ลูกเพียงคนเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้
ยังมีค่าลดหย่อนอีกมากมายที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้าม แถมค่าลดหย่อนบางอย่างยังเป็นการส่งเสริมเพื่อให้เกิดการออมการลงทุนระยะยาวด้วย เช่น ดอกเบี้ยบ้าน ค่าเบี้ยประกัน เงินปันผลจากการลงทุนในหุ้น เงินลงทุนใน
กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)
เงินลงทุนใน
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)
เงินสะสมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินประกันสังคม หรือแม้กระทั่งเงินทำบุญ ล้วนมีผลต่อการประหยัดภาษีทั้งสิ้น
หลายคนลืมที่จะใส่ใจเงินค่าลดหย่อนเหล่านี้ เพราะคิดว่าเป็นเงินเล็กๆ น้อยๆ แต่ที่จริงแล้ว... เงินส่วนนี้ช่วยประหยัดภาษีได้มากเลยทีเดียว ยิ่งมีค่าลดหย่อนมาก ก็จะช่วยประหยัดภาษีได้มาก
คราวนี้มาถึงเรื่อง
“วิธีการคำนวณภาษี”
กันบ้าง... หลังจากที่นำรายได้ทั้งปี มาหักค่าใช้จ่ายตามประเภทรายได้ และหักค่าลดหย่อนต่างๆ แล้ว จากนั้นเราจะนำเงินได้สุทธิมาคำนวณภาษีในอัตราก้าวหน้า ดังนี้
วิธีนี้จะใช้สำหรับผู้มีรายได้ประเภทเงินเดือนเป็นหลัก แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้ประเภทอื่นๆ รวมอยู่ด้วย ต้องคำนวณอีกวิธีหนึ่งเพื่อเปรียบเทียบกัน โดยการนำรายได้ทั้งปีก่อนหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน หรือที่เรียกกันว่า
“รายได้พึงประเมิน”
มาคูณด้วยอัตราภาษี 0.5% หากวิธีใดมีจำนวนเงินภาษีที่ต้องจ่ายสูงกว่า ให้เสียภาษีด้วยวิธีนั้น ซึ่งโดยทั่วไปวิธีแรกจะมีจำนวนที่มากกว่า
เอาล่ะ... มาถึงตรงนี้คุณคงรู้จักองค์ประกอบในการวางแผนภาษีคร่าวๆ แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ นั่นคือ
“การยื่นภาษี”
กันเสียที โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีเงินคืนภาษีด้วยแล้ว คุณต้องกรอกรายละเอียดให้ครบถ้วนและลงลายมือชื่อผู้ขอคืนอย่างชัดเจน ที่สำคัญก่อนยื่นแบบแสดงรายการอย่าลืมตรวจทานรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ รวมทั้งเอกสารที่ต้องแนบเป็นหลักฐานให้เรียบร้อยก่อน
ทางที่ดี... คุณควรรีบยื่นแบบแสดงรายการตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกราคม ซึ่งจะทำให้คุณได้เงินคืนภาษีเร็ว เพราะเป็นช่วงที่คนยื่นน้อย แต่ถ้าคุณไม่มีเงินคืนภาษี จะยื่นเร็วหรือช้าก็ไม่มีผลอะไร ที่แน่ๆ คือ อย่าถ่วงเวลาจนเลยช่วงยื่นแบบแสดงรายการ (เดือนมีนาคม) เข้าล่ะ ถ้าเกินกว่านั้น แทนที่คุณจะประหยัด คุณกลับต้องจ่ายค่าปรับถึง 1.5% ต่อเดือนของเงินภาษีที่ต้องชำระเพิ่มเชียวนะ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคุณสามารถยื่นแบบแสดงรายการผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ที่ www.rd.go.th ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความรวดเร็วในการยื่นภาษีได้อีกทางหนึ่ง
เห็นหรือไม่ว่า... การวางแผนภาษีที่ดีและใส่ใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จะทำให้คุณประหยัดภาษีได้อย่างมาก ไม่ว่าจะรายได้ ค่าใช้จ่าย หรือเงินออมเงินลงทุนใดๆ หากคิดย้อนกลับมาถึงเรื่องภาษีได้ ก็อย่าละเลยที่จะกลับมาไตร่ตรองให้ดีก่อนว่าจะทำอย่างไรให้ประหยัดภาษีได้มากที่สุด และเมื่อคุณคุ้นเคยกับตัวเลขยุบยิบเหล่านี้แล้ว ภาษีก็จะไม่สร้างความวุ่นวายในแต่ละปีให้คุณต้องปวดหัวอีกต่อไป
https://www.set.or.th/set
1192
ผู้เข้าชม
หมวดหมู่
1146
ทั้งหมด
บัญชีโคตรง่าย
1111
การตลาด
11
บริหารธุรกิจ
12
ซอฟท์แวร์
12
ซอฟท์แวร์บัญชี
11
ซอฟท์แวร์ CRM
1
Get started for free today.
ทดลองใช้งานฟรี
×
โทร
062-310-5613
×
Line
×
ฟอร์มการติดต่อ
ชื่อผู้ติดต่อ :
บริษัท :
เบอร์โทรศัพท์ :
อีเมล :
ประเภทการติดต่อ :
สอบถาม
สนใจสินค้าและบริการ
ข้อเสนอแนะโปรแกรม
ร้องเรียนบริการ
ดาวน์โหลดโปรแกรม
ทดลองใช้งานออนไลน์ (Online Demo)
อื่นๆ
จองดูสาธิตการใช้โปรแกรม เชียงใหม่
จองดูสาธิตการใช้โปรแกรม กรุงเทพฯ
จองอบรมโปรแกรมก่อนซื้อ
จองอบรมออนไลน์
ร่วมเป็น Partners กับ myAccount
ร่วมเป็น Education กับ myAccount
จองอบรม Online
ลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี
เรื่อง :
รายละเอียด :
รอบอบรมออนไลน์ :
- เลือกรอบอบรมออนไลน์ -
22-23 มกราคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 กุมภาพันธ์ 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 มีนาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
23-24 เมษายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
21-22 พฤษภาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
18-19 มิถุนายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
23-24 กรกฎาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
20-21 สิงหาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
17-18 กันยายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
21-22 ตุลาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 พฤศจิกายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
17-18 ธันวาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
ส่งข้อความ
ยกเลิก
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด
×
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี
By SoGoodWeb.com