TH
TH
EN
062-310-5613
Menu
Home
Product
Sales Order
Purchase Order
Inventory Control
Accounts Receivable
Accounts Payable
General Ledger
Petty Cash
Cheque Receivable
Cheque Payment
Bank Adjustment
VAT & Withholding Tax
Sales Force Automation
Approve Center
Financial Management
Sale Analysis
Purchase Analysis
Audit and Internal Control
Security Administrator
Mobile Apps
API Lazada & Shopee
Work Flow
Pricing
ราคาแพ็กเกจ
เงื่อนไขการให้บริการ
วิธีการชำระเงิน
Service
จองอบรมโปรแกรม
วีดีโอสอนการใช้งาน
คู่มือการใช้งาน
คำถามที่พบบ่อย FAQs
ข้อเสนอแนะโปรแกรม
การวางระบบบัญชี และการเริ่มต้นใช้งาน
รายละเอียดการ Update Version
นโยบายการรักษาข้อมูล
Customers
Site Reference
Partners สถาบันการศึกษา
More
โครงการเพื่อสังคม
ฟังก์ชันสำหรับสำนักงานบัญชี
เหตุผลที่เลือกใช้ myAccount Cloud
บัญชีโคตรง่าย myAccount Cloud
จองอบรมโปรแกรมก่อนซื้อ
News
Blog
Partners
Partners สำนักงานบัญชี
สถาบันการศึกษา
About Us
Our Story
Social Enterprise
Office Location
Our Business
Prosoft Group
Contact Us
ทดลองใช้งานฟรี
หน้าแรก
BLOG myAccount Cloud
การลงทุน แบบกระจาย VS แบบโฟกัส แบบไหนดีกว่ากัน ?
การลงทุน แบบกระจาย VS แบบโฟกัส แบบไหนดีกว่ากัน ?
ย้อนกลับ
หน้าแรก
BLOG myAccount Cloud
การลงทุน แบบกระจาย VS แบบโฟกัส แบบไหนดีกว่ากัน ?
การลงทุน แบบกระจาย VS แบบโฟกัส แบบไหนดีกว่ากัน ?
ย้อนกลับ
การลงทุน แบบกระจาย VS แบบโฟกัส แบบไหนดีกว่ากัน?
“อย่าเอาไข่ทุกฟองที่มีไปใส่ในตะกร้าใบเดียว”
“Don't put all your eggs in one basket”
เป็นสำนวนที่พูดกันบ่อยในโลกการลงทุน
ในแง่ของการลงทุน สำนวนนี้จะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบว่า
การลงทุนลงแรงให้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียว ถ้าพลาดขึ้นมาเราอาจได้รับความเสียหายอย่างหนัก
แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางคนบอกว่า ถ้าเราอยากได้ผลตอบแทนมากกว่าคนอื่น ก็ควรจะโฟกัสไปที่การทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพียงอย่างเดียวหรือไม่กี่อย่าง
การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง (Diversified Investment)
คือ การแบ่งเงินเพื่อไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลาย เช่น ถ้าเรามีเงินอยู่หนึ่งก้อน เราอาจนำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล 20%, หุ้นกู้ 30%, หุ้น 40% และอีก 10% ฝากไว้ในธนาคาร
ที่ต้องทำแบบนี้ ก็เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ชนิดเดียว เช่น ถ้าเรานำเงินทั้งก้อนไปลงทุนในหุ้นเพียงอย่างเดียว ถ้าเกิดปัญหากับบริษัทที่เราลงทุน เราก็อาจจะขาดทุนในปริมาณมากจากการลงทุนในบริษัทนั้นได้ หรือถ้าเราจำกัดให้เหลือเพียงแค่การลงทุนในหุ้น การกระจายการลงทุนในตลาดหุ้นที่ง่ายที่สุด ก็คือการนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมดัชนี (Index Fund) ยกตัวอย่างในประเทศไทย เช่น กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นที่อยู่ใน SET50 หรือก็คือกองที่ลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ 50 อันดับแรกในตลาดหุ้นไทย ในต่างประเทศ เช่น กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นที่อยู่ใน S&P 500 ซึ่งเป็นกองที่ลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ 500 อันดับแรกในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
ข้อดีของการกระจายการลงทุน
ในลักษณะนี้ก็คือ ถ้าเราลงทุนในระยะเวลาที่นานมากพอ โดยเฉลี่ยแล้วเราจะได้ผลตอบแทนที่ดีในระดับหนึ่งซึ่งใกล้เคียงกับตลาด และโอกาสที่จะขาดทุนหนักๆ จากการลงทุนจะมีน้อย ตัวอย่างของเรื่องนี้ เช่น ดัชนี S&P 500 ที่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึงปีละ 10% ในช่วงปี 1965-2019 หมายความว่า ถ้าเราลงทุนด้วยเงิน 1 ล้านบาท ในปี 1965 ในกองทุนรวมที่กระจายการลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี S&P 500 ผ่านไป 54 ปี เงินลงทุนของเราจะเติบโตเป็น 172 ล้านบาท ซึ่งสำหรับหลายคน ผลตอบแทนในระดับนี้ ก็คงจะเป็นที่น่าพอใจมากแล้ว..
แต่ถ้าเราอยากได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีมากขึ้นไปอีก ก็มีอีกทางเลือกที่น่าสนใจ นั่นก็คือ
“การลงทุนแบบโฟกัส (Focus Investment)”
ถ้าพูดถึงเฉพาะการลงทุนในตลาดหุ้น การลงทุนแบบโฟกัส จะเป็นการเน้นการลงทุนไปในหุ้นไม่กี่ตัว และมูลค่าที่ลงทุนไปในบริษัทเพียงไม่กี่บริษัทเหล่านั้น จะมีสัดส่วนสูงเมื่อเทียบกับมูลค่าการลงทุนทั้งหมด การลงทุนแบบนี้ จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าแบบกระจายความเสี่ยง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน
การลงทุนแบบโฟกัสที่ว่า
จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุนเป็นอย่างดี และหนึ่งในนั้นคือนักลงทุนระดับโลกอย่าง
“วอร์เรน บัฟเฟตต์”
ถ้าเราลองมาดูพอร์ตการลงทุนของบริษัท Berkshire Hathaway บริษัทดำเนินธุรกิจโดยการเข้าไปลงทุนด้วยการถือหุ้นในบริษัทอื่น ที่มี CEO คือ วอร์เรน บัฟเฟตต์
ปัจจุบัน สัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทต่างๆ ของ Berkshire Hathaway ใน 5 อันดับแรกคือ
1. Apple บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก สัดส่วนต่อพอร์ตการลงทุน 44%
2. Bank of America 1 ใน 4 ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา สัดส่วนต่อพอร์ตการลงทุน 11%
3. Coca-Cola ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำอัดลมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สัดส่วนต่อพอร์ตการลงทุน 9%
4. American Express ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่ของโลก สัดส่วนต่อพอร์ตการลงทุน 7%
5. Kraft Heinz ผู้ผลิตอาหารแบรนด์ดัง และซอสมะเขือเทศแบรนด์ Heinz สัดส่วนต่อพอร์ตการลงทุน 5%
จะเห็นว่า มูลค่าเงินลงทุนของ Berkshire Hathaway กว่า 76% ที่มีมูลค่ากว่า 6.3 ล้านล้านบาท ถูกโฟกัสไปที่บริษัทเพียงแค่ 5 บริษัท เท่านั้น และที่น่าสนใจก็คือ การลงทุนในหุ้นเพียงไม่กี่ตัวแบบนี้ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นสิ่งที่เขาทำมาแล้วอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยที่ตัวเขายังไม่มีชื่อเสียงด้วยซ้ำ รู้ไหมว่า นับตั้งแต่ปี 1965-2019 หุ้น Berkshire Hathaway ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยมากถึงปีละประมาณ 20.3% ซึ่งมากกว่าผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีในช่วงเดียวกันของดัชนี S&P 500 ถึงเท่าตัว
ถึงตรงนี้ ถ้าถามว่า การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง กับ แบบโฟกัส แบบไหนดีกว่ากัน และเราควรเลือกลงทุนแบบไหน?
ประเด็นหลักของเรื่องนี้อยู่ที่ว่า แต่ละบุคคลมีความรู้ความเข้าใจในการลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนถ้าเรามีความรู้และความสามารถในการลงทุนยังไม่มากนัก
การลงทุนแบบกระจายความเสี่ยง
ก็อาจเป็นแนวทางที่น่าสนใจเพื่อป้องกันไม่ให้เงินลงทุนของเราได้รับความเสียหายหนัก
แต่สำหรับนักลงทุนมืออาชีพ อย่างเช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ ที่มีความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ในด้านการลงทุน และสามารถยอมรับและจัดการความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ก็อาจเลือกใช้การลงทุนอีกแบบ ที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า นั่นก็คือ
การลงทุนแบบโฟกัส
นั่นเอง..
ที่มา :
Link
รวมบทความบัญชีมากถึง 1,000 :
https://www.myaccount-cloud.com/Article/List/1612
887
ผู้เข้าชม
หมวดหมู่
1146
ทั้งหมด
บัญชีโคตรง่าย
1111
การตลาด
11
บริหารธุรกิจ
12
ซอฟท์แวร์
12
ซอฟท์แวร์บัญชี
11
ซอฟท์แวร์ CRM
1
Get started for free today.
ทดลองใช้งานฟรี
×
โทร
062-310-5613
×
Line
×
ฟอร์มการติดต่อ
ชื่อผู้ติดต่อ :
บริษัท :
เบอร์โทรศัพท์ :
อีเมล :
ประเภทการติดต่อ :
สอบถาม
สนใจสินค้าและบริการ
ข้อเสนอแนะโปรแกรม
ร้องเรียนบริการ
ดาวน์โหลดโปรแกรม
ทดลองใช้งานออนไลน์ (Online Demo)
อื่นๆ
จองดูสาธิตการใช้โปรแกรม เชียงใหม่
จองดูสาธิตการใช้โปรแกรม กรุงเทพฯ
จองอบรมโปรแกรมก่อนซื้อ
จองอบรมออนไลน์
ร่วมเป็น Partners กับ myAccount
ร่วมเป็น Education กับ myAccount
จองอบรม Online
ลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี
เรื่อง :
รายละเอียด :
รอบอบรมออนไลน์ :
- เลือกรอบอบรมออนไลน์ -
22-23 มกราคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 กุมภาพันธ์ 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 มีนาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
23-24 เมษายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
21-22 พฤษภาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
18-19 มิถุนายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
23-24 กรกฎาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
20-21 สิงหาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
17-18 กันยายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
21-22 ตุลาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
19-20 พฤศจิกายน 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
17-18 ธันวาคม 2568 (เวลา 09:00 - 16:00)
ส่งข้อความ
ยกเลิก
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น
นโยบายคุกกี้
ตั้งค่าคุกกี้
ยอมรับทั้งหมด
×
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น
เปิดใช้งานตลอดเวลา
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์
คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน
คุกกี้ในส่วนการตลาด
คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี
By SoGoodWeb.com