สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)

สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)

สังคมไร้เงินสด คืออะไร

       เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมที่จากเดิมต้องพกเงินสดออกจากบ้านทุกครั้ง มาเป็น “สังคมไร้เงินสด” ที่คุณไม่ต้องพกเงินสดออกจากบ้าน แต่ก็สามารถจับจ่ายซื้อของ หรือชำระค่าบริการต่าง ๆ ได้ ด้วยช่องทางการชำระเงินในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรเติมเงิน e-wallet (กระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์) พร้อมเพย์ (PromtPay) หรือกระทั่งชำระเงินด้วย QR Code เป็นต้น

ข้อดี : สังคมไร้เงินสด

ลดต้นทุนการผลิตธนบัตรและเหรียญกษาปณ์

       ในแต่ละปี ประเทศต้องเสียงบประมาณส่วนหนึ่งไปกับการผลิตธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ เพื่อนำมาใช้หมุนเวียนในระบบ ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการจัดการเงินสด อาทิ ค่าขนส่งธนบัตรไปตามศูนย์เงินสด หรือธนาคารพาณิชย์ และค่าทำลายธนบัตรเก่า ฉะนั้น หากสามารถลดการทำธุรกรรมด้วยเงินสด จะทำให้ประเทศประหยัดเงินส่วนนี้ได้ไม่น้อย

สามารถจัดการเรื่องเงินได้ดีขึ้น

       ทำให้การจัดการบัญชีของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทั้งในส่วนของผู้ขายและผู้ซื้อ เนื่องจากการโอนเงินทุกครั้ง จะมีการแจ้งเตือนจากธนาคารมาถึงคุณซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีเสมอ

       โดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจด้วยแล้ว การรับเงินผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยให้คุณจัดการรายได้ดีกว่ารับเงินสด เนื่องจากไม่ต้องมาเสียเวลานับเงินสดตอนปิดร้าน ยิ่งวันไหนยอดขายดีอาจได้นั่งทำบัญชี และนับเงินกันนานนับชั่วโมงแน่ ๆ ทั้งยังเป็นการลดโอกาสที่จะถูกลูกจ้างโกงหรือทอนเงินผิดอีกด้วย

ไม่ต้องเสียเวลาไปทำธุรกรรมที่ธนาคารอีกต่อไป

       ในยุคสังคมไร้เงินสด คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปต่อแถวเพื่อฝาก-ถอนเงินที่ธนาคารอีกต่อไป เพราะคุณสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านบริการของ Mobile Banking ได้

ธุรกิจมีความคล่องตัวและเติบโตขึ้น

       เนื่องจากความสะดวกในการชำระเงิน ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ได้ทุกรูปแบบ และรับชำระเงินผ่าน Mobile Banking บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบริการพร้อมเพย์ (PromptPay) ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายแก่เจ้าของธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านเป็นของตนเอง และเหล่าขาช้อปออนไลน์ที่ไม่สะดวกเดินทางออกจากบ้าน

ลดปัญหาอาชญากรรม

       เมื่อลดการใช้เงินสด ย่อมทำให้คนพกเงินสดน้อยลง ซึ่งการใช้เงินสดน้อยลงก็มีส่วนช่วยในการลดอัตราการฉกชิงวิ่งราว และกรณีทำเงินสดสูญหายไปด้วย เพราะเงินของคุณถูกเก็บรักษาอยู่ในบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด

ตรวจสอบความเคลื่อนไหวทางการเงินได้ง่าย

       การเปลี่ยนเป็นสังคมไร้เงินสดช่วยให้ตรวจสอบเรื่องการโอนเงินที่ผิดปกติได้ง่ายขึ้น โดยหากมีการโอนเงินจำนวนมากข้ามบัญชีในลักษณะผิดปกติ รัฐบาลหรือหน่วยงานรัฐก็สามารถเข้ามาตรวจสอบได้ทันทีว่า เงินจำนวนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหรือไม่

ช่วยเรื่องการจัดเก็บภาษี

       เมื่อสามารถตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินได้ ทำให้รัฐบาลสามารถเรียกเก็บภาษีจากผู้เสียภาษีได้ถูกต้อง ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อเสีย : สังคมไร้เงินสด

ความปลอดภัยของบัญชี

       การที่คุณนำข้อมูลการเงินทุกอย่างเข้าไปไว้ในรูปแบบออนไลน์ อาจจะทำให้ถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ควรหามาตรการรักษาความปลอดภัยของระบบการเงินออนไลน์ให้รัดกุมมากขึ้น อาทิ Log out จากระบบแอปฯ ธนาคารทุกครั้งที่เลิกใช้บริการ เป็นต้น

อาจเกิดการใช้จ่ายเกินตัว

       เนื่องจากการทำธุรกรรมที่ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส อาจกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าและบริการที่ฟุ้งเฟ้อเกินความจำเป็น เพราะความสะดวกสบายที่เกิดขึ้น จนทำให้บางครั้งคุณเพลิดเพลินจนลืมดูตัวเลขค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

ต้องใช้งานอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา

       การที่คุณสามารถใช้จ่ายเงินในบัญชีผ่านระบบออนไลน์ ทำให้ต้องพึ่งพาเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรและรวดเร็ว ฉะนั้น หากอินเทอร์เน็ตของคุณหมดหรือไปอยู่ในจุดอับสัญญาณ คุณก็ไม่สามารถใช้บริการอะไรได้

       จะเห็นว่า “สังคมไร้เงินสด” ไม่ได้นำมาเพียงการเปลี่ยนแปลงด้านที่ดีเท่านั้น แต่ด้วยโลกกำลังเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญกับชีวิตมนุษย์มากขึ้น สิ่งที่ทำได้ คือ การปรับตัวและเตรียมพร้อมรับเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เช่นเหล่าพ่อค้า-แม่ค้ารุ่นใหม่ที่หันมาใช้บริการชำระเงินผ่าน QR Code หรือพร้อมเพย์ มากขึ้น

แหล่งที่มา : Link

 1703
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์