หลายคนอาจคิดว่าการทำบัญชีเป็นเรื่องยุ่งยาก เข้าใจยาก และซับซ้อน แต่ความเป็นจริงแล้วการทำบัญชีนั้นไม่ต่างอะไรกับการจดบันทึกรายรับ-รายจ่าย ประจำวัน เพราะการทำบัญชีนั้นถูกพัฒนามาจากแนวคิดการจดบันทึกทางการเงินแบบง่าย ๆ นั่นเองครับ... เริ่มต้นด้วยการบันทึกทุกสิ่งที่ใช้จ่าย และบันทึกทุกอย่างที่ได้รับมา หักลบออกแต่ละวันส่วนที่เหลือคือกำไรต่อวันครับ และกำไรต่อวันก็จะสะสมเรื่อย ๆ กลายเป็นกำไรต่อเดือน กำไรต่อปี กลายเป็นกำไรสะสมในที่สุด ทำแบบนี้เป็นประจำจะทำให้เรารู้รายรับ รายจ่าย ขาดทุน กำไร เป็นการเริ่มต้นอย่างง่าย ๆ นั่นเอง
เมื่อเราได้ลองฝึกทำบัญชีอย่างง่ายมาแล้ว ขั้นต่อมาก็คือ การฝึกเรียนรู้ภาษาบัญชี เพราะหากเราไม่เรียนรู้ภาษาบัญชีเอาไว้บ้าง แม้เราจะจ้างนักบัญชีมาช่วยทำบัญชีให้กับกิจการของเรา เราก็อาจจะ “พลาด” ทำเงินหายด้วยความไม่รู้ ภาษาบัญชีอย่างง่าย ๆ ได้แก่ สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น เดบิต เครดิต เกณฑ์คงค้าง เกณฑ์เงินสด เป็นต้น
ข้อแนะนำที่สาม “มองหา Software บัญชีที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา”
สำหรับธุรกิจ Startup นั้นแรก ๆ การทำบัญชีอาจไม่ยุ่งยากมากนัก แต่เมื่อธุรกิจ Startup เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ความซับซ้อนด้านการเงินก็จะมากขึ้น หากเราทำบัญชีด้วยตนเอง และใช้โปรแกรมแบบง่าย ๆ อาจไม่ตอบโจทย์ครบทั้งหมด ทางเลือกที่ดีกว่าก็คือ การมองหา Software บัญชีที่เหมาะสมกับธุรกิจของเรา และยิ่งในยุคปัจจุบัน หาก Software นั้นสามารถ RUN บนมือถือได้ด้วย = เราสามารถติดตามบัญชีการเงินของบริษัทเราจากที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องดูผ่านจอคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเพียงอย่างเดียว การมองหา Software บัญชีที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราจะช่วยให้การทำบัญชีของเราง่ายขึ้น ลดการสูญเสีย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำธุรกิจได้เป็นอย่างดีครับ
บทความโดย : https://www.krungsri.com