เคล็ดลับ จัดการค่าใช้จ่าย แบบง่ายๆ

เคล็ดลับ จัดการค่าใช้จ่าย แบบง่ายๆ

1.ควรมีการทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย

– การทำบัญชีรายรับรายจ่ายนั้น จะทำให้เราเห็นรายรับและค่าใช้จ่ายของเราในแต่ละเดือนอย่างชัดเจน ซึ่งพอเรารู้ที่มาที่ไปของเงินเราแล้ว เราก็จะสามารถวางแผนจัดการเงินของเราได้นั่นเอง นอกจากนี้ยังทำให้เรารู้ด้วยว่าในแต่ละเดือนนั้นเรามีเงินเหลือท่าไหร่ แต่ถึงอย่างนั้นหลายๆ คนมักจะชอบบอกว่าการทำบัญชีรายรับรายจ่ายนั้นยุ่งยาก
  ซึ่งจริงๆ แล้วการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของเรานั้นไม่ยุ่งยากเลย เพียงแค่จดทุกอย่างที่เป็นรายรับและรายจ่ายของเราให้ครบทุกรายการก็พอ ยิ่งในยุคปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือที่จะช่วยให้เราสะดวกในการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของเราขึ้นไปอีก ทั้งช่วยจดบันทึกทั้งช่วยคำนวณให้เราด้วย ดังนั้นทำเถอะครับเพื่อที่เราจะได้เงินเหลือมากขึ้น และวันนี้เรามีตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ มาฝากกันด้วย
ตัวอย่างแอพพลิเคชั่นที่ช่วยในการจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ
HomeBudget Lite
– เป็นแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือที่จะช่วยบันทึกรายรับ-รายจ่ายรายวัน วันจ่ายบิล และเงินในบัญชีของเราไว้ในที่เดียว เพื่อที่จะช่วยให้เห็นภาพรวมของสภาพการเงินของเราทั้งหมดได้ และนอกจากนี้ยังสามารถแปลงค่าเงินตามอัตราแลกเปลี่ยนได้อีกด้วย
Money Book
– เป็นแอพพลิเคชั่นของโทรศัพท์มือถือที่จะช่วยบันทึกบัญชีรายรับ-รายจ่าย ในแบบธีมการ์ตูนน่ารัก และเรียบง่ายในการใช้งาน แถมยังรองรับภาษาไทย ซึ่งเหมาะกับคนไทยอย่างเราเป็นอย่างยิ่ง  ส่วนคุณสมบัติเด่นอื่นๆ ก็มีอีก เช่น
  • สามารถบันทึกรายรับ-รายจ่ายได้ง่าย
  • สามารถดูภาพรวมรายรับ-รายจ่ายตั้งแต่รายวัน, รายสัปดาห์และรายเดือนได้
  • สามารถคำนวณและวิเคราะห์ราย-รับรายจ่ายประจำวันไปจนถึงเดือน
  • สามารถระบุรายรับรายจ่ายลงยังปฏิทินได้
  • สามารถส่งข้อมูลรายรับ-รายจ่ายออกไปในรูปแบบไฟล์ .CSV ได้ทันที

2.แยกค่าใช้จ่ายออกตามประเภท

หลังจากรู้ค่าใช้จ่ายของเราแล้ว ก็ถึงเวลาต้องมาจัดการกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้กันแล้ว เริ่มต้นด้วยการแบ่งค่าใช้จ่ายออกเป็นประเภทต่างๆ โดยให้แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้
ค่าใช้จ่ายประจำ
  • คือ ค่าใช้จ่ายที่เราต้องใช้จ่ายประจำในทุกเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนชำระหนี้สินต่างๆ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเตอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้ เราสามารถรู้จำนวนได้ล่วงหน้า เพราะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างตายตัวนั่นเอง จึงทำให้เราแบ่งเงินไว้สำหรับจ่ายส่วนนี้ให้เพียงพอได้ไม่ยาก
ค่าใช้จ่ายที่มีการเปลี่ยนแปลงได้
  • คือ ค่าใช้จ่ายที่จะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละเดือน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้มักจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอเพราะเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายนอกหลายอย่าง จึงค่อนข้างที่จะประมาณการณ์ได้ยาก ดังนั้นเราจึงควรที่จะมีการเก็บออมเงินเผื่อในส่วนนี้ไว้ให้ดี โดยอาจจะมีการสำรองเงินส่วนนี้เป็นจำนวน 6 – 10 เดือนของค่าใช้จ่ายรายเดือนปกติของเราไว้ก็ได้ เพื่อที่เราจะได้เงินไม่ขาดมือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ค่าใช้จ่ายสำหรับการออมเงินและการลงทุน
  • คือ ค่าใช้จ่ายที่เราจะจ่ายเพื่อที่จะสร้างอนาคตให้กับตัวเราเอง โดยเราควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น ซื้อรถ ซื้อบ้าน เกษียณอายุ เป็นต้น ส่วนการลงทุนของแค่ละคนนั้นก็ขอให้ลงทุนในความเสี่ยงที่ตัวเองรับได้จะดีที่สุดครับ หรือหากใครจะเก็บออมเงินก็อาจจะแบ่งเงินประมาณ 20% ของรายได้ในแต่ละเดือน มาเป็นเงินเก็บออมก็ได้ครับ

บทความโดย: https://www.moneyguru.co.th

 1408
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์