ตราสารหนี้และตราสารทุน แตกต่างกันอย่างไร

ตราสารหนี้และตราสารทุน แตกต่างกันอย่างไร

ตราสารหนี้และตราสารทุน แตกต่างกันอย่างไร

         การทำธุรกิจในปัจจุบัน ผู้ถือหุ้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของธุรกิจ ผู้ถือหุ้นเป็นผู้ที่จะนำเงินทุนของตัวเองมาร่วมลงทุนกับธุรกิจ โดยมีความต้องการที่จะให้ผู้บริหารนำเงินส่วนนี้ไปบริหารธุรกิจให้เกิดกำไรสูงสุด ดังนั้นผู้ถือหุ้นต้องมีการศึกษารายละเอียดของธุรกิจนั้นๆ ก่อนการลงทุนเสมอ เช่น การศึกษาเกี่ยวกับงบแสดงฐานะการเงินของธุรกิจที่ช่วยให้เห็นถึงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะสินทรัพย์ หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น งบกำไรขาดทุนจะช่วยให้เห็นถึงผลการดำเนินงาน ซึ่งการศึกษาข้อมูลจะช่วยในการตัดสินใจในการลงทุนกับธุรกิจนั้นๆ

        ตราสารหนี้ : Debt Instruments (เดบทฺ อิน'สทรูเมินทฺ) คือ ตราสารการเงินเป็นสัญญาที่แสดงความเป็นหนี้ระหว่างผู้ออกตราสารหนี้ และผู้ถือตราสารหนี้หรือที่เรียกว่าผู้ลงทุนตราสารหนี้ โดยผู้ถือตราสารหนี้จะมีฐานะเป็น "เจ้าหนี้ของกิจการ" ตราสารหนี้ต้องมีการกำหนดอายุและอัตราดอกเบี้ยเป็นจำนวนที่แน่นอนโดยระบุวันที่ชำระดอกเบี้ยและเงินต้นล่วงหน้า ตั้งแต่เมื่อออกตราสารนั้นและในระหว่างที่ยังไม่ครบกำหนดอายุหรือวันไถ่ถอนสามารถซื้อขายโอนเปลี่ยนมือกันได้
ประเภทของตราสารหนี้ได้แก่
1. ตราสารหนี้ภาครัฐ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล, พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ, พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย, ตั๋วเงินคลัง ซึ่งเป็นตราสารมีความเสี่ยงต่ำสุด แต่ตราสารหนี้ภาครัฐก็จะมีอัตราผลตอบแทนไม่สูงนัก ส่วนใหญ่จะมีอายุการลงทุนยาว เพื่อไม่ให้เป็นภาระของรัฐในด้านการบริหารและการจัดการหนี้
2. ตราสารหนี้ภาคเอกชน ได้แก่ หุ้นกู้, หุ้นกู้มีประกัน, หุ้นกู้ไม่มีประกัน, ตั๋วแลกเงิน, ตั๋วสัญญาใช้เงิน ซึ่งตราสารหนี้ภาคเอกชนจะมีความเสี่ยงมากกว่าตราสารหนี้ของภาครัฐ แต่ตราสารหนี้ภาคเอกชนจะมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่า และมีอายุการลงทุนให้เลือกมาก ทั้งระยะสั้น ปานกลาง และระยะยาว

ตราสารทุน : Equity Instruments (เอค'ควิที อิน'สทรูเมินทฺ) เป็นตราสารที่กิจการออกให้แก่ผู้ถือหุ้น เพื่อระดมเงินทุนไปใช้ในกิจการ โดยผู้ถือตราสารทุนจะมีฐานะเป็น “เจ้าของกิจการ” รวมทั้งมีส่วนได้เสียหรือมีสิทธิในทรัพย์สินและรายได้ของกิจการ และได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผล การจ่ายเงินปันผลจะขึ้นอยู่กับผลกำไรและข้อตกลงของธุรกิจนั้นๆ
ประเภทของตราสารทุนได้แก่
1. หุ้นสามัญ เป็นตราสารประเภทหุ้นทุน ซึ่งออกโดยบริษัทมหาชนจำกัดที่ต้องการระดมเงินทุนจากประชาชน โดยผู้ถือหุ้นสามัญจะมีสิทธิร่วมเป็นเจ้าของบริษัทมีสิทธิในการออกเสียงลงมติในที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนของหุ้นที่ถือครองอยู่
2. หุ้นบุริมสิทธิ เป็นตราสารประเภทหุ้นทุนที่ผู้ถือมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของกิจการเช่นเดียวกับหุ้นสามัญ มีข้อแตกต่างจากหุ้นสามัญคือ ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิจะได้รับสิทธิในการชำระคืนเงินทุนก่อนผู้ถือหุ้นสามัญในกรณีที่บริษัทเลิกกิจการ

ตราสารหนี้และตราสารทุน แตกต่างกันอย่างไร

บทความโดย : http://www.mindphp.com

 33198
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์