รายการบทความที่ค้นหา

การขายของออนไลน์เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมและมีการแข่งขันอย่างมากในยุคปัจจุบัน สังเกตได้จากการเกิดร้านค้าออนไลน์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย และเชื่อได้ว่าบรรดาแม่ค้ามือใหม่หลายท่านมีความกังวลใจ กลัวลงทุนไปแล้วจะไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาดหวังไว้ ดังนั้นการศึกษาการทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนต้องมีกลยุทธ์และการดำเนินการที่เหมาะสม ดังหัวข้อด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญในการขายของออนไลน์ให้สำเร็จ

8 วิธีการขายของออนไลน์ให้สำเร็จ

          1. ศึกษาตลาดและกำหนดกลยุทธ์ : ทำการวิจัยตลาดเพื่อเข้าใจความต้องการและความพอใจของลูกค้าเป้าหมายของคุณ จากนั้นกำหนดกลยุทธ์ในการตลาดและการโฆษณาที่เหมาะสมกับตลาดนั้นๆ เช่น การใช้ SEO, โฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย, หรือการใช้พาร์ทเนอร์ในการโปรโมทสินค้า

          2. สร้างเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ : สร้างพื้นที่ที่สะดวกและน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าในการเข้าถึงสินค้าหรือบริการของคุณ ใช้หรือสร้างเว็บไซต์ออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ และออกแบบให้ใช้งานง่ายสะดวก

          3. การตลาดและโฆษณา : ใช้ช่องทางตลาดออนไลน์ เช่น Google Ads, Facebook Ads, Instagram Ads, หรือ TikTok Ads เพื่อโปรโมทสินค้าของคุณต่อลูกค้าเป้าหมาย

          4. สร้างความน่าเชื่อถือและความสัมพันธ์กับลูกค้า : ให้บริการลูกค้าอย่างดีและเป็นกันเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความพึงพอใจในสินค้าหรือบริการของคุณ

          5. ติดตามและปรับปรุง : ติดตามผลการขาย และปรับปรุงกลยุทธ์หรือการดำเนินการต่างๆ ตามผลการวิเคราะห์

          6. การบริการหลังการขาย : ให้บริการหลังการขายที่ดี เช่น การส่งของที่รวดเร็ว การตอบกลับถึงการสอบถามของลูกค้าในเวลาที่เหมาะสม

          7. การสร้างความสร้างสรรค์และการแตกต่าง : พัฒนาสินค้าหรือบริการใหม่ๆ หรือให้บริการลูกค้าอย่างที่ไม่เหมือนใครเพื่อสร้างความสนใจและความแตกต่างในตลาด

          8. การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย : ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น การใช้งานประสบการณ์ในการเลือกซื้อที่ปรับปรุงและโปรโมทผ่านแอปพลิเคชั่น (Application) มือถือ

          การปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้อาจช่วยให้คุณมีความสำเร็จในการขายสินค้าออนไลน์ได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จขึ้นอยู่กับการปรับเปลี่ยนและการปรับตัวต่อสถานการณ์ของตลาดอย่างต่อเนื่องด้วย การตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าอย่างรวดเร็วและตรงตามเป้าหมาย

เขียนและเรียบเรียงโดย : บริษัท โปรซอฟท์ ซีอาร์เอ็ม จำกัด | 21 มีนาคม 2567

เพิ่มตัวกำหนด รายงานโปรด (Favorite Report) ทุกรายงานของระบบ Dashboard และระบบ Audit & Internal Control เพิ่มเงื่อนไขกำหนดสิทธิการเข้าระบบ ของระบบ Dashboard

ภาษีป้าย คือ ภาษีที่จัดเก็บจากป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายการค้าของผู้ประกอบการเพื่อ หารายได้ ไม่ว่าจะแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใด ๆ ด้วยอักษรภาพหรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึก หรือทําให้ปรากฏด้วยวิธีอื่น ๆ

รองรับการนำเข้าและส่งออกข้อมูลผ่าน API ทั้งรายการสินค้า,รายชื่อลูกค้า, รายชื่อเจ้าหนี้ และรายชื่อผู้สนใจ

เพิ่มช่องสำหรับระบุข้อมูลบัญชีธนาคารของผู้ขาย (เจ้าหนี้การค้า), เพิ่มการเลือกรูปแบบเอกสาร 2 รูปแบบ ได้แก่ แบบแจกแจง และแบบสรุป, เพิ่มการเรียงข้อมูลตามวันที่หัก ณ ที่จ่าย, ตามเลขที่หัก ณ ที่จ่าย หรือตามเลขที่เอกสาร เพื่อให้รายงานสามารถเรียงลำดับรายการเอกสารตามข้อมูลที่เลือกได้อย่างชัดเจน และอื่นๆ

เพิ่มตัวกำหนด รายงานโปรด (Favorite Report) ทุกรายงานของระบบ Dashboard และระบบ Audit & Internal Control เพิ่มเงื่อนไขกำหนดสิทธิการเข้าระบบ ของระบบ Dashboard และเพิ่มการแสดงข้อมูลประเภทธุรกิจและแหล่งที่มาลูกค้า เมื่อมีการ Export ข้อมูลลูกหนี้และเจ้าหนี้ และอื่นๆ

ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี และยังไม่พร้อมเข้าสู่ระบบการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ด้วยการลงลายมือชื่อดิจิทัล (Digital Signature) สามารถจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ด้วยระบบ e-Tax Invoice by Email