คนจะร่ำรวยนั้น ไม่เพียงทำมาหาเงินเก่ง แต่ยังต้องรู้จักใช้เงินที่หามานั้นเก่งด้วย โดยต้องไม่ทำให้เงินทองที่หามาทั้งชีวิตต้องสูญเสียไปกับการลงทุนที่ผิดพลาด โดยเฉพาะการลงทุนทางการเงิน คนไทยจำนวนมากมายในวัยใกล้เกษียณล้วนเคยผ่านช่วงวิกฤติทางเศรษฐกิจมาหลายครั้ง ตั้งแต่ เหตุการณ์ Black Monday ,การลดค่าเงินบาทปี 2540 จนต่อมาทำให้มีการปิดสถาบันการเงิน 56 แห่ง และมีการเลิกจ้างงานมากมาย ซึ่งบางคนจนปัจจุบันก็ยังไม่ฟื้นจากเหตุการณ์นี้เลย มาจนถึงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ปี 2008 ของสหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลกระทบไปยังตลาดทุนทั่วโลก ตลอดจนถึงวิกฤติการเงินของยุโรปเมื่อเร็วๆนี้ ทั้งหมดที่กล่าวมาล้วนเขย่าขวัญให้เข็ดขยาดและหวาดกลัวการลงทุน บางคนถึงขั้นสาปส่งไม่กล้าลงทุนกันเลยทีเดียว
แต่น่าแปลกนะคะว่า ทุกครั้งที่เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจใหญ่ๆ ต่อมาเมื่อเริ่มฟื้นตัว การลงทุนและการเก็งกำไรก็จะกลับมายิ่งใหญ่มากกว่าเดิมทุกครั้งไป ตราบใดที่โลกนี้ยังคงมีมนุษย์อยู่ เศรษฐกิจโลกก็จะถูกขับเคลื่อนไปตามความคาดหวังในผลตอบแทนและล้อเล่นอยู่กับความโลภและความกลัวของมนุษย์ตลอดไป ด้วยว่าอัตราผลตอบแทนของผู้กล้าก็มากมายมหาศาลเสียจนทำให้อดไม่ได้ที่จะกระโดดลงมาร่วมวงกับเขาด้วย วงล้อเหตุการณ์แบบนี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกในโลกทุนนิยม โดยเฉพาะปัจจุบันประเทศไทยก็มีอัตราส่วนของการลงทุนทางการเงินไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์การเงินใดๆสูงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเทียบกับเงินออมในระบบธนาคารพาณิชย์ อันเนื่องมาจาก พรบ.การเงินว่าด้วยการคุ้มครองเงินต้นไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อบัญชีของธนาคาร ทำให้ผู้มีเงินออมมากๆไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการหรือลูกจ้างมืออาชีพ ล้วนต้องหาที่อยู่ให้กับเงินของตน ใครมีเงินออมอยู่ในบัญชีธนาคารมากๆก็มีความเสี่ยงเหมือนกันนะคะ ถ้าเกิดวิกฤติเศรษฐกิจแบบเลวร้ายสุดๆ ถึงขนาดเกิดการล้มของสถาบันการเงินแบบในสหรัฐอเมริกาหรือแถบยุโรป ท่านก็จะได้รับการคุ้มครองเงินฝากเพียงแค่ 1 ล้านบาทต่อบัญชีเท่านั้น แล้วที่ไหนหล่ะที่จะปลอดภัย มั่นคงและเอาชนะเงินเฟ้อได้ บางคนก็เอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น ซื้อทองคำ ที่ดิน และอื่นๆอีกเยอะแยะ โดยเฉพาะเมื่อเกิดประชาคมอาเซียนโดยสมบูรณ์ (AEC) ในปี 2558 ก็จะเกิดการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกันเองมโหฬาร ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสทองที่จะเรียนรู้การลงทุนในรูปแบบต่างๆเพื่อมาจัดการกับเงินออมของเรา
มีคำกล่าวของนักการเงินผู้ยิ่งใหญ่ Sir John Templeton ที่ว่า
“การป้องกันความผิดพลาดจากการลงทุนที่ดีที่สุด คือ การไม่ลงทุน แต่ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็คือ การไม่ลงทุน เช่นเดียวกัน”
บทความโดย : entraining.net