การกระจายการลงทุน หรือการจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocations) เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการลงทุนของนักลงทุนทุกๆ คน รูปแบบการกระจายการลงทุนของนักลงทุนแต่ละคนมักจะมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ส่วนบุคคล วัตถุประสงค์หรือเป้าหมายของการลงทุน และข้อจำกัดอื่นๆ เป็นต้น โดยการกระจายการลงทุนที่ดี สิ่งที่นักลงทุนควรคำนึงถึง 2 สิ่งก็คือ การกระจายการลงทุนสามารถให้ผลตอบแทนตามที่คาดหวังแก่นักลงทุนได้ และความเสี่ยงอยู่ในเกณฑ์ที่นักลงทุนสามารถยอมรับได้เช่นเดียวกัน
แม้ Asset Allocations จะเป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนหลายๆ คนเคยได้ยิน แต่การลงทุนโดยอาศัยกลยุทธ์นี้ เป็นสิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่มองข้ามในการพิจารณา การกระจายการลงทุน ที่ดีและเหมาะสมกับตัวเอง โดยนักลงทุนส่วนมากคิดว่า การเลือกกระจายการลงทุนลงในเครื่องมือทางการเงินอะไรบ้างนั้น เป็นเพียงการแบ่งเงินทุนไปลงทุนในสินทรัพย์หลายๆ อย่างให้ได้มากที่สุดเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึง ความเสี่ยงของแต่ละสินทรัพย์ ซึ่งเป็นผลให้พอร์ตการลงทุนในลักษณะนี้ไม่มีประสิทธิภาพนั่นเอง
สิ่งที่นักลงทุนควรตั้งคำถามกับตนเอง เกี่ยวกับการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงมีดังนี้
- วิเคราะห์สถานการณ์ของตนเอง : คำถามข้อนี้เป็นคำถามแบบปัจเจกบุคคล สถานการณของนักลงทุนไม่ได้หมายความเฉพาะสถานการณ์ทางการเงินแต่เพียงอย่างเดียว แต่นักลงทุนควรคำนึงถึงสถานการณ์อื่นๆ เช่น หากมีการล้มป่วยของคนในบ้าน การนำเงินทั้งหมดไปลงทุน หรือการเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ (Low Liquidity) อาจสร้างปัญหาให้แก่นักลงทุนมากกว่า เนื่องจากหากต้องการใช้จ่ายเงินอย่างกระทันหัน
- เป้าหมายของการลงทุนคืออะไร : แน่นอนว่าเป้าหมายของการลงทุนคือการลงทุนให้ได้ผลตอบแทนกลับมา แต่เนื่องจากการกระจายการลงทุน คือการที่นักลงทุนใช้กลยุทธ์การจัดสรรน้ำหนักการลงทุนลงไปในแต่ละสินทรัพย์ ดังนั้นนักลงทุนจะต้องทราบวัตถุประสงค์ของการลงทุนของตนเองในแง่ของ ความเสี่ยงที่พึ่งรับได้ หรือเน้นการลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะสั้น หรือระยะยาว เป็นต้น เพื่อที่นักลงทุนจะสามารถมองหาสินทรัพย์เพื่อการลงทุนที่เหมาะสมตามเป้าหมายของตนเองได้นั่นเอง
- หาความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ใหม่ๆ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากขึ้น : การลงทุนทุกการลงทุนมีความเสี่ยง สินทรัพย์ที่มีให้เลือกลงทุนในปัจจุบันมีอยู่มากมาย ยกตัวอย่างสินทรัพย์เพื่อการลงทุนทางเลือกใหม่อย่าง การเป็นนักลงทุนบนแพลทฟอร์มกู้ยืมเงิน Peer-to-Peer Lending (P2P) เป็นต้น โดยการเลือกกระจายการลงทุนลงไปในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงแต่มีความผันผวนและความเสี่ยงสูงกว่า และกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนน้อยลงแต่นักลงทุนมีความเข้าใจและถนัดอยู่แล้ว ก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่จะช่วยกระจายความเสี่ยงและผลตอบแทนในการลงทุนให้แก่นักลงทุนได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรมองหาตัวเลือกสินทรัพย์และลองศึกษาทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์และโอกาสที่ดีในการลงทุน
บทความโดย: moneywecan