สิ่งที่ควรมองหาจากธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน

การวิเคราะห์บริษัทว่าเป็นธุรกิจที่ดีก่อนเข้าประเมินราคาและลงทุน ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่นักลงทุนทุกคนไม่สามารถมองข้ามได้ การดูความสามารถในการทำกำไร สถานะทางการเงินของบริษัท และการเปลี่ยนแปลงของกระแสเงินสดภายในกิจการ สามารถตรวจดูได้ด้วยการวิเคราะห์งบการเงิน 

นักลงทุนทุกคนจะเริ่มต้นที่การวิเคราะห์คุณภาพของบริษัทก่อน โดยบริษัทที่ดีสำหรับการลงทุนจะประกอบไปด้วยปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้

• ความสามารถในการแข่งขันระยะยาวที่ยั่งยืน (Durable Competitive Advantage : DCA) บริษัทที่ดีและมีแนวโน้มที่จะรักษาความสามารถในการแข่งขัน เอาชนะคู่แข่งในอุตสาหกรรมได้อยู่เสมอจะมีสิ่งสำคัญที่เรียกว่า DCA ที่ทำให้บริษัทได้เปรียบในเชิงการแข่งขันทั้งด้าน การตลาด ผลิตภัณฑ์ ช่องทางการจัดจำหน่าย นวัตกรรม แบรนด์ หรือสิทธิบัตร เป็นต้น ยิ่งบริษัทสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาด (Market Shares) จากบริษัทคู่แข่ง และสามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าคู่แข่งมากขึ้นเท่าไหร่ ความสามารถในการแข่งขันจะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น เปรียบเสมือนคูเมืองและป้อมปราการที่ทำให้คู่แข่งไม่สามารถรุกล้ำหรือแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้ จนยอมแพ้ไปในที่สุด
• ธุรกิจที่สามารถสร้างเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) ได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกระแสเงินสดอิสระของกิจการจะมาจาก กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน หักลบด้วย เงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท และ รายจ่ายสำหรับการลงทุน (Capital Expenditures : CAPEX) กิจการที่มีเงินสดอิสระเหลืออยู่เยอะ มีความหมายว่าเงินสดอิสระนั้นสามารถนำมาจ่ายเงินปันผล (Dividend)ให้กับผู้ถือหุ้นได้ หรือชำระเงินกู้ยืมเพื่อให้บริษัทมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น บริษัทที่เติบโตได้โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงจะมีความน่าสนใจและดึงดูดนักลงทุนได้มากกว่าบริษัทที่ต้องลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ซึ่งใช้เงินลงทุนจำนวนมาก เพราะมีกระแสเงินสดเหลืออยู่มากกว่า
• ความสามารถในการต่อรองกับผู้บริโภค (Bargaining power) บริษัทที่มีอำนาจในการต่อรองกับลูกค้าจะได้ประโยชน์ในระยะยาว เพราะบริษัทสามารถปรับราคาของผลิตภัณฑ์หรือบริการได้โดยไม่กระทบปริมาณการบริโภคของลูกค้า ซึ่งบริษัทมีสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่นธุรกิจสถานพยาบาล หรือโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่มีต้นทุนการสับเปลี่ยน (Switching Cost) ระบบบริการสูง จะมีอำนาจต่อรองกับผู้บริโภคมากกว่าเสมอ รวมถึงบริษัทที่มีแบรนด์หรือเครื่องหมายการค้า (Trademark) ที่แข็งแกร่ง ทำให้ลูกค้ามีความต้องการซื้อซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งถือเป็นสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (Intangible assets) ที่ซ่อนมูลค่ามหาศาลอยู่ภายในบริษัท
• บริษัทที่ผู้บริหารมีธรรมาภิบาล (Good governance) และมีความสามารถในการบริหารสูง ก่อนที่นักลงทุนจะเข้าลงทุนในกิจการใด สิ่งสำคัญที่ต้องมองหาจากบริษัทนั้นคือ ผู้บริหารที่ดี ประกอบด้วยคุณลักษณะที่สำคัญ 2 ประการคือ “เป็นคนดีมีจริยธรรม” ให้ความเป็นธรรมกับผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม และ “เป็นคนเก่งมีความสามารถ” เข้าใจและรอบรู้ในธุรกิจที่ตนบริหารงานอยู่ ทั้งในด้านกลยุทธ์ การดำเนินงาน และการเงิน สามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยระบบการบริหารภายใน เพราะผู้บริหารเปรียบเสมือนตัวแทนของนักลงทุนในการบริหารธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างแข็งแกร่ง ฉะนั้นผู้บริหารที่เชื่อใจได้จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญของนักลงทุน แม้จะเป็นธุรกิจธรรมดาแต่ด้วยการขับเคลื่อนของผู้บริหารที่ดี ธุรกิจนั้นก็สามารถโดดเด่นขึ้นมาได้

แท้จริงแล้วปัจจัยด้านคุณภาพของธุรกิจนั้นมีรายละเอียดที่นักลงทุนควรให้ความสำคัญอยู่อีกมาก การวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญ 4 ข้อข้างต้นนั้นครอบคลุมการวิเคราะห์ปัจจัยสำคัญเบื้องต้นของธุรกิจเท่านั้น แต่สำหรับธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมบางประเภทที่จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดพิเศษมากกว่าการวิเคราะห์ธุรกิจเบื้องต้น เป็นหน้าที่ของนักลงทุนที่ต้องค้นคว้าข้อมูลเชิงลึกด้วยตนเองต่อไป

ในการวิเคราะห์และประเมินนำบริษัทหรือธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งเข้ามาบนแพลทฟอร์มการกู้ยืมเงินบุคคล-บริษัท ของเว็บไซต์ Moneywecan นอกจากปัจจัยเบื้องต้น 4 ข้อข้างต้น ข้อมูลอื่นๆ ก็จะถูกนำมาพจารณาอีกด้วย โดยเป็นการเชื่อมต่อข้อมูลกับเจ้าของข้อมูลสำคัญต่างๆ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ที่ผู้ให้บริการ Moneywecan ให้คงามสำคัญและมีผลต่อการอนุมัติให้ผู้กู้รายใดมีสิทธิเข้ามาอยู่บนแพลทฟอร์มของเรา เพื่อความปลอดภัยของนักลงทุน และเป็นการสร้างโรงสร้างแพลทฟอร์ม Peer-to-Business ที่ดีต่อไปนั่นเอง

บทความโดย:moneywecan