การทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน และต้องบริหารจัดการหลายด้านให้สมดุลกัน ธุรกิจจึงจะดำเนินไปได้ด้วยดี แต่อาจมีบางเรื่องที่คนทำธุรกิจอาจมองข้ามไป เช่นเรื่องดังต่อไปนี้
บางคนเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจเล็ก ๆ จึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องการแบ่งสัดส่วนเงินมากนัก หรืออาจจะใช้บัญชีรายรับของธุรกิจเป็นบัญชีเดียวกับค่าใช้จ่ายส่วนตัว ด้วยเหตุผลที่ว่าเวลาจะใช้จ่ายอะไรจะได้ง่าย สะดวก และไม่สับสน
แต่การนำเงินสำหรับธุรกิจมารวมกับเงินส่วนตัว จะทำให้คุณไม่รู้ว่าเงินที่ได้จากการทำธุรกิจมีจำนวนเท่าใดกันแน่ และมีผลกำไรมากน้อยแค่ไหน แนะนำให้แยกบัญชีออกมาให้เป็นเรื่องเป็นราว จะได้บริหารการเงินได้เป็นระบบมากกว่า และสามารถตรวจสอบได้ง่ายกว่าด้วย
ก่อนที่จะเริ่มลงทุนไปกับธุรกิจอะไรสักอย่าง ให้ลองพิจารณาดูก่อนว่าธุรกิจในกลุ่มใดที่สร้างกำไรน้อยและมีโอกาสพลาดสูง ธุรกิจรูปแบบนั้น ๆ ก็มีวี่แววว่าจะไม่รุ่ง ไม่น่าไปทำ
ก่อนที่จะเริ่มทำ อย่าลืมดูว่าลูกค้ามีโอกาสที่จะเข้าถึงสินค้าและบริการของคุณมากน้อยแค่ไหน หากเป็นธุรกิจเล็ก ๆ ต้นทุนน้อย ก็มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนค่อนข้างสูง
สิ่งที่ควรพิจารณาคือคุณสามารถกระจายสินค้าให้กลุ่มลูกค้าในจำนวนเท่าใด จึงจะได้กำไร แล้วสามารถทำได้ไหมในต้นทุนเท่านี้
คนบางคนใจร้อน นึกอยากจะทำธุรกิจก็ทำเลย แค่มีเงินทุนมาเริ่มต้น ก็เปิดธุรกิจเลย โดยที่ไม่ได้เตรียมเงินสำรองเอาไว้ใช้หมุนเวียนในธุรกิจ เพราะใช้สำหรับลงทุนเปิดธุรกิจ ซื้อสิ่งของ ค่าสถานที่ ฯลฯ ไปหมดแล้ว กะว่าจะได้เงินจากลูกค้ามาใช้สานต่อกิจการ
แต่ต้องไม่ลืมว่า กว่าธุรกิจของคุณจะเป็นที่รู้จักและมีลูกค้าเจ้าประจำที่สามารถสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจได้ ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 เดือน เพราะฉะนั้น การไม่มีเงินสำรองเอาไว้หมุนเวียนในธุรกิจเลย เป็นการกระทำที่ค่อนข้างเสี่ยง
สินเชื่อ เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเรื่องเงินทุนในการทำธุรกิจได้ แต่หลาย ๆ คน เลือกสินเชื่อที่จะนำมาใช้กับธุรกิจแบบไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบด้านการเงินต่อธุรกิจ โดยเฉพาะช่วงแรก ๆ ที่อาจมีรายได้น้อยและยังไม่คงที่ หากกู้สินเชื่อที่มีเงื่อนไขไม่เข้ากับการทำธุรกิจ เช่น ดอกเบี้ยสูง ก็อาจจะต้องรับภาระจากการผ่อนชำระสินเชื่อมากขึ้นไปอีก
เพราะฉะนั้น ลองมองหาสินเชื่อเพื่อธุรกิจ หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีเงื่อนไขเข้าใจง่าย หรือปรึกษาสถาบันการเงินก่อนก็ได้
ประกันธุรกิจ คือประกันภัยที่ช่วยคุ้มครองความเสี่ยง เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดใด ๆ ขึ้น และอาจส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจจนธุรกิจหยุดชะงักหรือไม่สามารถดำเนินการต่อเนื่องตามเดิมได้ ซึ่งประกันธุรกิจจะมอบความคุ้มครองด้วยการจ่ายเงินชดเชยเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นกับธุรกิจ เป็นการช่วยบรรเทาปัญหาทางการเงิน
