ข้อมูลทางบัญชีมีประโยชน์ต่อบุคคลทั้งหลายฝ่ายด้วยกันและจะมีประโยชน์กว้างขวางมากขึ้นในอนาคตเมื่อธุรกิจขยายใหญ่โตขึ้นผู้ที่มีส่วนได้เสียจะเพิ่มมากขึ้นผู้บริหารย่อมจะต้องจัดทำบัญชีและงบการเงินเพื่อทราบผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและเพื่อนำมาใช้วางแผนในอนาคตนอกจากนั้นผู้บริหารจะต้องจัดทำบัญชีและงบการเงินเพื่อที่บผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและเพื่อนำมาใช้วางแผนในอนาคตนอกจากนั้นผู้ทำบัญชีต้องการทราบฐานะทางการเงินของกิจการให้แก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งได้แก่เจ้าของหรือผู้ถือหุ้นซึ่งต้องการทราบฐานะของกิจการและประเมินประสิทธิภาพในการบริหารงานของผู้บริหารเจ้าหนี้ผู้ซึ่งต้องการทราบความสามารถในการชำระเงินของลูกหนี้ของกิจการรัฐบาลต้องการทราบข้อมูลเพื่อควบคุมการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามกฎหมายและเพื่อเก็บภาษีเป็นต้นถ้าผู้บริหารต้องจัดทำงบการเงินแต่ละชุดเพื่อสนองความต้องการของบุคคลแต่ละฝ่ายย่อมทำให้เกิดความสับสนในความเชื่อถือได้ของข้อมูลเพราะผู้ใช้งบการเงินอาจเกิดความไม่แน่ใจว่างบการเงินชุดใดจะตรงตามวัตถุประสงค์ของตนอาจจะต้องของบการเงินที่ทุกชุดมาประกอบการพิจารณาก็เป็นได้ดังนั้นโดยหลักการการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไปแล้วงบการเงินที่เสนอต่อบุคคลภายนอกจึงทำขึ้นชุดเดียวเพื่อนำไปใช้สนองความต้องการของบุคคลภายนอกทุกฝ่ายงบการเงินจึงเป็นข้อมูลทางการเงินที่สำคัญที่สุดที่ทุกฝ่ายจะได้นำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ต่างๆ กัน
การจัดทำรายงานทางการบัญชีแสดงข้อมูลซึ่งเป็นผลมาจากการประกอบธุรกิจของหน่วยงานต่างๆที่สำคัญๆอาจจัดเป็นงบการเงินซึ่งประกอบด้วยงบดุลงบกำไรขาดทุนงบกำไรสะสมและงบแสดงการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงิน
แผนภาพแสดงถึงการไหลของรายการค้าไปสู่งบการเงิน
งบการเงินแบ่งเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆคือ
1.งบดุล (Balance Sheet)
2.งบกำไรขาดทุน(IncomeStatement)
3.งบกำไรสะสม(Statementof Retained Earnings)
4.งบกระแสเงินสด (Statementof CashFlows)
5.งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในของผู้ถือหุ้น(StatementofChanger inSharaholders’ Equity)
บทความโดย : http://www.accountclub.net