ทำความรู้จัก "สายพันธุ์โควิด -19" ในไทย

ทำความรู้จัก "สายพันธุ์โควิด -19" ในไทย

        “การกลายพันธุ์ของไวรัส” ถือเป็นเรื่องปกติในวิวัฒนาการของเชื้อโรค โดยการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสในโรค ได้มีการพัฒนาวัคซีนใหม่ๆ เพื่อมาสู้กับโรค

        นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่าจากการศึกษาการกลายพันธุ์ไวรัสโควิด-19 ในคนตั้งแต่การระบาดรอบแรกและการระบาดระลอกใหม่ พบว่าไวรัสโควิด-19 มีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งจริงๆถือเป็นธรรมชาติของไวรัสที่มีการกลายพันธุ์อยู่แล้ว โดยส่วนใหญ่ไวรัสจะกลายพันธุ์ใน 1-2 ตำแหน่งของสารพันธุกรรมต่อเดือน และจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ไม่มีการหยุดยั่งการแพร่กระจายเชื้อ การรักษา หรือการป้องกัน

        นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ตำแหน่งของโรคโควิด-19 ที่กลายพันธุ์มีความสำคัญ เพราะมีผลทำให้เกิดการติดเชื้อเร็ว และมีบางสายพันธุ์ มีการหลบภูมิคุ้มกัน อาจทำให้การใช้วัคซีนไม่ได้ผล โดยตอนนี้สายพันธุ์ที่มีผลต่อการควบคุมการระบาด การรักษา และการตอบสนองวัคซีนในประเทศไทย มี 3 สายพันธุ์ คือ

        1.สายพันธุ์ B.1.1.7(GR,G) ประเทศที่พบครั้งแรกในอังกฤษ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2563 โดยตำแหน่งที่กลายพันธุ์เป็นตำแหน่งพิเศษ อยู่บนผิวไวรัส ทำให้ไวรัสมีคุณสมบัติจับผิวเซลล์มนุษย์ได้ดีขึ้น ข้อมูลในห้องทดลองพบว่า สายพันธุ์นี้มีการแพร่กระจายได้ง่ายขึ้นกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ประมาณ 40-70% นอกจากนี้ ปัจจุบันมีหลักฐานจากรพ.อังกฤษหลายแห่ง พบว่า สายพันธุ์นี้มีความรุนแรงขึ้น ทำให้การป่วยและเสียชีวิตมากกว่าเดิม

        2. สายพันธุ์B.1.351(GH,G) ประเทศที่พบครั้งแรกที่ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2563 ทำให้ไวรัสจับตัวเซลล์ได้ดีขึ้น ติดเชื้อง่ายขึ้น สามารถหนีภูมิคุ้มกันที่เกิดจากวัคซีนได้ดีขึ้น อาจจะมีผลต่อประสิทธิภาพวัคซีนลดลง เพราะเป็นวัคซีนที่พัฒนาโดยใช้สายพันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งมีหลายประเทศมีการทดสอบวัคซีน พบว่าประสิทธิภาพวัคซีนลดลงเมื่อมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์นี้

        3.สายพันธุ์P.1(GR) ประเทศที่พบครั้งแรกคือประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2563 พบว่าพลาสมาหรือระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์จับกับไวรัสเหล่านี้ได้น้อยลงจริง ๆ เมื่อเทียบกับไวรัสสายพันธุ์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งเหล่านี้

        “จุฬาฯ ได้มีการสำรวจสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย จำนวน 189 ตัวอย่าง พบว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.7 มี 9 ราย ซึ่งบางคนเดินทางมาจากอังกฤษ และมาจากประเทศอื่น เป็นทั้งคนไทยและต่างชาติ และล่าสุดเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้พบคนไทยคนแรกที่มี สายพันธุ์B.1.351และวันนี้ (16 ก.พ.2564) จะมีการรายงานเพิ่มอีก 2 ราย รวมแล้วตอนนี้พบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์B.1.351 อย่างน้อย 3 รายที่เข้ามาในไทย ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเป็นการตรวจจากผู้ที่เข้ามาในไทย ยังไม่มีการระบาดจากคนไทยสู่คนไทย หรือระบาดในชุมชน” นพ.โอภาส กล่าว

        ส่วนการแพร่กระจายของโควิด-19 ในชุมชนของไทย เป็นไวรัสสายพันธุ์ B.1.36.16 ซึ่งหากยังมีการแพร่กระจายไปอีก 3-4 เดือน อาจจะมีการกลายพันธุ์ และจะเป็นสายพันธุ์ท้องถิ่นของไทยเองก็เป็นได้

        อย่างไรก็ตามการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ดีที่สุด คือการบล็อกทางเข้าของประเทศ มีการตรวจผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศอย่างเข้มข้น ตั้งแต่สนามบิน ก่อนเข้าสนามบิน ไปสถานที่กักกันของรัฐ มีการติดตามไวรัส ตรวจเชื้อจนกกว่าจะไม่พบเชื้อ ขณะที่ประชาชนทั่วไป ต้องสวมใส่หน้ากาก เว้นระยะห่างทางสังคม ดูแลตัวเอง และมีการฉีดวัคซีน

แหล่งที่มา : Link

 1248
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์