• Home

  • Search List Article

Search List Article

  • Home

  • Search List Article

Search List Article

2277 Items
หลายคนที่สนใจเปิดกิจการใหม่ มักมีคำถามค่ะ ว่าจะเปิดกิจการในรูปแบบบริษัท หรือว่า ห้างหุ้นส่วน แบบไหนดี ก่อนอื่นเราจะต้องเข้าใจลักษณะสำคัญของบริษัทและห้างหุ้นส่วนก่อนนะคะว่ามันมีลักษณะอย่างไร บริษัท เป็นนิติบุคคล โดยมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 3 คน แบ่งทุนเป็นหุ้น แต่ละหุ้นมีมูลค่าเท่ากัน มูลค่าหุ้นต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 บาท โดยผู้ถือหุ้นต้องลงเงินเป็นทุน หากมีแรงงานจะมาลงแรง อันนี้ไม่ได้นะคะ ต้องมีเงินค่ะ ลักษณะที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ผู้ถือหุ้นจะรับผิดจำกัดในหนี้สินของบริษัทเพียงไม่เกินจำนวนเงิน ตามค่ามูลค่าหุ้นที่ตนยังส่งใช้ไม่ครบเท่านั้น หมายความว่า นางกุ๊กไก่ ลงชื่อจองซื้อหุ้น 10 หน่วย หน่วยละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 1,000 บาท บริษัทเรียกเก็บค่าหุ้น 25% คือเงิน250 บาท ต่อมาบริษัทบริหารเงินหล่มจมหนี้สินพ้นล้นตัว เป็นเหตุให้ต้องจ่ายเงินคือเจ้าหนี้ 10 ล้านบาท นางก็จะรับผิดจำนวน 75% ของค่าหุ้นที่ยังส่งไม่ครบ คือมูลค่า 750 บาท แต่ถ้าหากว่านางจ่ายค่าหุ้นทั้งจำนวน 1,000 บาทไปแล้ว ถึงบริษัทจะเป็นหนี้เกินทุน นางก็ไม่ต้องรับผิดในหนี้แต่อย่างใด
1148 Visitor
ในตอนที่ 1 ได้ทราบลักษณะสำคัญระหว่างบริษัทและห้างหุ้นส่วนกันไปแล้ว ว่ามันมีลักษณะอย่างไร คำถามอย่างหนึ่งที่มักจะถามกันบ่อยๆ ก็คือ เปิด บริษัท กับห้างหุ้นส่วน ต้องมีเงินทุนเท่าไหร่ กำหนดให้ต้องมีเงินทุนจดทะเบียนหนึ่งล้านหรือไม่ สำหรับบริษัท กฎหมายกำหนดมูลค่าหุ้นไว้ ไม่ต่ำกว่า 5 บาท สมมติว่าบริษัทแห่งหนึ่งชื่อเริ่มสร้าง มีผู้ถือหุ้น 3 คน ดำเนินการออกหุ้นเพียง 3 หุ้น มูลค่าหุ้นตามกำหนดขั้นต่ำพอดี 5 บาท จึงทำให้มีทุนเท่ากับ 15 บาท แต่เนื่องจากกรมพัฒนฯ มีการกำหนดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนตามจำนวนเงินทุนจดทะเบียน และได้กำหนดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำไว้ ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าธรรมเนียมขั้นต่ำในการจดเปิดบริษัท 5,000 บาท หากเป็นห้างหุ้นส่วนก็มีขั้นต่ำ 1,000 บาท ดังนั้นบริษัทเริ่มสร้าง ที่มีทุนจดทะเบียนเท่ากับ 15 บาท ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมเท่ากับทุนจดทะเบียนหนึ่งล้าน ซึ่งเมื่อเงินทุนจำนวนนี้ไม่พอ ก็จะต้องมีการเพิ่มทุนอีก และต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเพิ่มทุนอีก เช่น บริษัทเริ่มสร้างทำการเพิ่มทุนอีก 1,000 บาท ก็เสียค่าธรรมเนียมอีก 5,000 บาท
827 Visitor
จัดตั้งกิจการในรูปแบบเจ้าของคนเดียว/ห้างหุ้นส่วนสามัญ/คณะบุคคล ตกลงกันแล้วก็เปิดร้านได้เลยใช่มั้ย ลองพิจารณาข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้องไว้ก่อน จะได้ไม่มีปัญหาอะไรตามมาทีหลังค่ะ 1. จดทะเบียนพาณิชย์ ประเภทกิจการที่เปิดต้องจดทะเบียนพาณิชย์หรือไม่ เป็นขายสินค้าหรือไม่ โดยกำหนดว่าหากขายได้เกินวันละ 20 บาท หรือมีสินค้าเตรียมขายเกิน 500 บาท หากใช่จะต้องไปจดที่กรมพัฒนาฯ การให้บริการที่ไม่ได้เกี่ยวกับกับอินเตอร์เน็ตหรือคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องจด ตัวอย่างของกิจการที่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์มีอะไรบ้าง ร้านอาหาร > จด ร้านเกมส์ ร้านบริการคอมพิวเตอร์ > จด ร้านเช่าวีดีโอ > จด ร้านเช่าหนังสือ > ไม่ต้องจด ร้านเช่าพระเครื่อง > จด
3444 Visitor
ความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์หรือธุรกิจทุกประเภทเกิดจากองค์ประกอบหลายส่วน การจัดวางระบบการเงินและการบัญชีเป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะนอกจากจะทำให้เราทราบสถานะของกิจการว่ามีผลกำไรขาดทุนหรือไม่อย่างไร การจัดทำบัญชีและการเงินยังช่วยให้เราทราบข้อมูลของกิจการ เช่น ทราบจำนวนทรัพย์สิน หนี้สิน และส่วนที่นำมาลงทุนทำให้เรารู้ว่าธุรกิจที่กำลังทำอยู่นั้นมีความมั่นคงมากน้อยเพียงใด สิ่งเหล่านี้สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อวางแผนการทำงานให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้เร็วขึ้น นอกจากที่กล่าวมาแล้วการเงินและการบัญชียังมีผลต่อการทำธุรกิจอีกหลายส่วน ดังนี้
7582 Visitor
รายได้นั่นเป็นของพี่แต่เงินทองนี้นั้นเป็นของน้อง เป็นสิ่งที่ได้ยินกับตาได้เห็นมากับหูโดยเฉพาะเวลาได้แวะไปเยี่ยมเยียนครอบครัวที่ใช้ระบบภรรยาธิปไตยในการปกครอง ซึ่งหากว่าไปแล้วก็มีหลายครอบครัวที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านครอบครัวและด้านการเงิน เพราะฝ่ายหนึ่งก็มุ่งมั่นสร้างสรรค์พัฒนาความรู้ความชำนาญ กลยุทธ์ในการหารายได้ สร้างกำไรและเงินสดให้เพิ่มพูน ขณะที่อีกฝ่ายก็ทำหน้าที่ดูแลจัดสรรนำเงินบริหารจัดการสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับตัวเองทั้งวันนี้และวันหน้า
1460 Visitor
หากสินทรัพย์หมุนเวียนที่จะ Transformer เป็นเงินสดได้ภายใน 1 ปีเพื่อนำมาชำระหนี้ระยะสั้นมันดันเปลี่ยนเป็นเงินสดไม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด แต่หนี้สินหรือค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระภายใน 1 ปีกลับซื่อตรงมารอเข้าแถวเพื่อรอรับชำระตากำหนดงานนี้บ้านเมืองจะลุกเป็นไฟ ฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลายอย่างไรก็ต้องหาเงินมาใช้หนี้ให้ได้ หากไม่แยกกระเป๋าส่วนตัวกับกระเป๋าของกิจการออกจากกันมันจะตุงนังกันตรงนี้ละ ควักซ้ายมาจ่ายขวากว่าจะรู้ตัวก็หมดทั้งสองกระเป๋า
847 Visitor
มุ่งมั่นพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน การเตือนภัยทางการเงินเป็นมิติหนึ่งที่มีความจำเป็นและสำคัญยิ่งต่อการบริหารงาน และด้วยความมุ่งมั่น ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ต่อการพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งพึ่งตนเอง จึงได้สร้างและ พัฒนาเครื่องมือเฝ้าระวังและเตือนภัยทางการเงินของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร เพื่อใช้เป็นกลไกหนึ่งทางการ บริหารสู่ความมั่นคง เข้มแข็ง อิสระ และพึ่งตนเองของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรได้ในที่สุด
1553 Visitor
ในปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ เพื่อลดต้นทุนจากการซื้ออาหารสัตว์จากบุคคล อื่น และสูตรอาหารสัตว์เป็นไปตามความต้องการของสมาชิก การผลิตอาหารสัตว์แต่ละครั้งสหกรณ์จะใช้วัตถุดิบที่ แตกต่างออกไปทั้งที่เป็นหัวและเป็นเม็ด เช่น มันเส้น ข้าวโพด เป็นต้น ดังนั้นต้องแปรสภาพวัตถุดิบให้เป็นผง หรือ มีลักษณะเดียวกัน เพื่อให้การผลิตหรือผสมอาหารสัตว์ได้คุณภาพยิ่งขึ้น การผลิตอาหารสัตว์สหกรณ์ใช้วิธีโม่หรือ เครื่องย่อยวัตถุดิบให้เป็นผงก่อนที่จะไปสู่กระบวนการผลิตอาหารสัตว์ ในการผลิตอาหารสัตว์โดยทั่วไปแล้วจำเป็น ต้องควบคุมการผลิตให้เป็นไปตามสูตรอย่างเคร่งครัด มิฉะนั้นอาจจะมีผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงที่บริโภคได้ หาก จำเป็นต้องเปลี่ยนวัตถุดิบบางตัวที่มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต ก็ใช้วัตถุดิบที่มีคุณค่าอาหารใกล้เคียงกันมากที่สุด ดังนั้น โดยปกติสหกรณ์จะมีการกำหนดสูตรอาหารสัตว์ไว้ล่วงหน้า พร้อมทั้งกำหนดวัตถุดิบที่สามารถทดแทนกันได้ ในการดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์สหกรณ์จะเตรียมวัตถุดิบเข้ากระบวนการผลิตอาหารสัตว์โดยจะจัดเก็บวัตถุดิบไว้ ในโกดังหรือไซโล ในการวางระบบบัญชีให้แก่สหกรณ์ที่ดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์จะต้องคำนึงถึงการควบคุม ภายในของสหกรณ์แต่ละแห่งด้วย ซึ่งในที่นี้ไม่ขอกล่าวถึง
1934 Visitor
นักวิเคราะห์หุ้นหลายคนจะเน้นเรื่องกำไรของบริษัท แต่นักวิเคราะห์สินเชื่อจะเน้นเรื่องกระแสเงินสด (ว่าจริงๆแล้วมีเงินอยู่กระเป๋าเท่าไร จะมีโอกาสจ่ายเงินคืนธนาคารหรือไม่)
1085 Visitor
รู้หรือไม่งบการเงินนั้นประกอบด้วย 5 อย่าง งบของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น เวลาเค้าประกาศงบ จะให้มาทั้งหมด 5 อย่าง และ 1 ของแถม อะไรคือของแถมวะนี่ ? งบการเงินไม่ได้มีแค่งบดุล หรืองบกำไรขาดทุน ยังมีอีก 3 งบประกอบกัน ซึ่งมีความสำคัญไม่แพ้กัน ในบทความนี้จะอธิบายจุดประสงค์แต่ละงบอย่างง่ายๆ ก่อนนะครับ 1. งบดุล หรือในชื่อใหม่ว่า งบแสดงฐานะการเงิน (เปลี่ยนชื่อให้ดูดีขึ้น 55) ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแสดงฐานะของกิจการว่ามั่งคั่งแค่ไหน ถ้าเคยท่องสมการบัญชีมา ก็เป็น สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน (ส่วนของเจ้าของ) ต้องเท่ากัน (ดุลกัน) เค้าเลยเรียกว่างบดุล สิ่งที่จะดูหลักๆ คือ มีสินทรัพย์เท่าไหร่
978 Visitor
Get started for free today. Free Trial
Create a website for free Online Stores